กรุงเทพ--8 ส.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
ประเทศออสเตรเลีย ชื่นชมประเทศไทยในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคเอดส์ โดยการลดอัตราการติดเชื้อรายใหม่ของทหารเกณฑ์และหญิงตั้งครรภ์ เผยสถานการณ์เอดส์ของออสเตรเลีย ขณะนี้ทหารเกณฑ์พบ 1:1,000 ส่วนหญิงตั้งครรภ์พบ 1:5,000
นายมนตรี พงษ์พานช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับ นายแพทย์ไมเคิล วูลดริด (Dr.Michael Wooldridge) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเทศออสเตรเลีย และคณะ รวม 4 คน เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการความร่วมมือด้านสาธารณสุข ที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เมื่อ พ.ศ.2536 ที่ผ่านมา จำนวน 10 โครงการ ได้แก่ การควบคุมสารเสพติด การควบคุมโรคเอดส์ งานอนามัยสิ่งแวดล้อม การป้องกันอุบัติเหตุ การพัฒนาการสุขศึกษา การควบคุมคุณภาพยา การบริหารแผนงานวิจัยทางการแพทย์ การคลังสาธารณสุข การสื่อสารด้านสาธารณสุข และการรักษาพยาบาลชั้นสูง
นายมนตรี กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยที่จัดว่าเร่งด่วนและสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ โรคเอดส์ เนื่องจากเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพของคนลดต่ำลงภายหลังติดเชื้อแล้ว การดำเนินการแก้ไขจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เนื่องจากยามีราคาแพง การป้องกันที่ดีที่สุดและได้ผลดีที่สุด คือ การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ร่วมรณรงค์เรื่องนี้อย่างเต็มที่
ทางด้านการรักษากลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์ ตนมั่นใจว่าอีกไม่เกิน 5 ปี นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญจะสามารถคิดค้นยารักษา ทำให้ผู้ติดเชื้อคืนสู่สภาพปกติได้สำเร็จ ขณะนี้ประเทศไทยเราใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาเอดส์มากถึง 2 พันกว่าล้านบาท อย่างไรก็ดีความร่วมมือกับประเทศออสเตรเลียในการแก้ปัญหาเอดส์ เราจะขอความร่วมมือให้ออสเตรเลียช่วยในเรื่องงบประมาณของเราด้วย โดยเฉพาะงบในการซื้อยา ควบคู่กับการพัฒนาด้านเทคนิค ซึ่งประเทศออสเตรเลียยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้เราจะได้ทำโครงการดังกล่าวเสนอผ่านกระทรวงการต่างประเทศต่อไป
นายมนตรี กล่าวอีกว่า ในส่วนความคืบหน้าของความร่วมมือที่ผ่านมา ในส่วนของเอดส์นั้น ขณะนี้ดำเนินการอยู่ที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร โดยเน้นที่การพัฒนาระบบบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคเอดส์ ร่วมกับศูนย์อัลเบี่ยนสตรีท (Albion Street Center) ขณะนี้ที่บำราศนราดูรได้เปิดศูนย์ดูแลผู้ป่วยเอดส์ชนิดไปเช้าเย็นกลับ วิธีดังกล่าวสามารถลดจำนวนผู้ป่วยเอดส์ให้นอนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็นได้เป็นจำนวนมาก คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งจะได้ประเมินผลและขยายระบบการดูแลดังกล่าวให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป และในปลายเดือนนี้จะมีการลงนามความร่วมมือในเรื่องของการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตอีกด้วย
ทางด้านนายแพทย์ไมเคิล วูลดริด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า ตนมีความสนใจปัญหาเอดส์เป็นกรณีพิเศษ และได้กล่าวแสดงความชื่นชมผลการควบคุมโรคเอดส์ของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มทหารเกณฑ์และหญิงตั้งครรภ์ที่ได้ผล แต่อย่างไรก็ดีได้เสนอให้เพิ่มการควบคุมการแพร่ระบาดของเอดส์ตามแนวชายแดนของประเทศด้วย เนื่องจากมีผลกระทบถึงกัน
สำหรับสถานการณ์เอดส์ของประเทศออสเตรเลียขณะนี้ ในกลุ่มทหารเกณฑ์พบอัตราติดเชื้อ 1:1,000 คน หญิงตั้งครรภ์พบอัตรา 1:1,500 คน ประเทศออสเตรเลียจัดว่าประสบผลสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของเอดส์ในกลุ่มฉีดยาเสพติดเข้าเส้นและรักร่วมเพศ โดยเฉพาะที่ซิดนีย์พบอัตราการติดเชื้อประมาณ 10% ด้วยการใช้วิธีเปลี่ยนกระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยา
นายแพทย์ไมเคิล ได้กล่าวถึง รายจ่ายเรื่องค่ารักษาโรคต่าง ๆ รวมทั้งเอดส์ด้วยว่า ในปีนี้รัฐบาลออสเตรเลียมีรายจ่ายด้านนี้มูลค่าถึง 68,000 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุก 4 ปี คน ออสเตรเลีย 1 คน จะมีค่าเฉลี่ยในการรักษา โดยหากอยู่ภายใต้ระบบสวัสดิการสังคม จะจ่ายเงินตัวเองซื้อยาครั้งละไม่เกิน 100 บาท แม้ว่ายาจะมีราคาแพงกว่านี้ก็ตาม ส่วนผู้ที่อยู่นอกระบบจะจ่ายไม่เกิน 500 บาท รายจ่ายดังกล่าวคิดเป็น 1 ใน 30 ส่วนของรายได้ใน 1 สัปดาห์ของชาวออสเตรเลีย ซึ่งยาต่าง ๆ ที่นำมาใช้รักษาในประเทศ กำหนดโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ วิธีนี้จะปลอดการแอบแฝงผลประโยชน์--จบ--