กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
จากประวัติศาสตร์ในอดีตที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าถิ่นใต้บ้านเราอยู่กันอย่าง ญาติ พี่น้อง มิตรสหาย ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เชื้อชาติใด เรารักใคร่สามัคคีกัน แต่ปัจจุบันนี้เหตุร้าย ๆ เกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการลอบวางเพลิงโรงเรียน วางเพลิงตู้โทรศัพท์ วางเพลิงห้องละหมาดในโรงเรียน วางเพลิงสถานีอนามัย และทำลายสถานที่ราชการ รวมทั้งยิงเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ที่ต้องรับเคราะห์รับกรรมต่าง ๆ นานานั้นไม่ใช่ใครอื่น คงเป็นพ่อแม่พี่น้องใน ๓ จังหวัดชายแดนของเรานี้เอง
ดังนั้น เราทุกคนในฐานะพสกนิกรชาวไทย ซึ่งเกิดในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ควรนิ่งดูดาย ควรหันมาช่วยกันเท่าที่จะช่วยได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม สุดแล้วแต่กำลังความสามารถที่จะทำได้ ต้องผนึกทั้งกำลังกาย กำลังใจ ไม่ว่าภาคเอกชน องค์กรศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และองค์กรชุมชนต่าง ๆ เพื่อช่วยกันยุติเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อราษฎรผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตอย่างปกติสุข สามารถทำงานอย่างที่เคยทำมาโดยไม่ต้องหวาดระแวงว่าวันนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเราหรือเปล่า อนาคตลูกหลานจะเป็นอย่างไร จะมีโรงเรียนสำหรับลูกหลานเราหรือเปล่า จะมีสถานีอนามัยไว้บริการคนเจ็บป่วยหรือเปล่า ดังนั้น ถ้าเราทุกคนมาช่วยกัน ยังไม่สายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นใหม่ ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะบรรเทาเบาบางลง และหมดสิ้นอย่างถาวรคงต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ จากราษฎรในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา และหน่วยงานทุก ๆ ฝ่ายประสานงานกันอย่างมีระบบ โดยถือเสมือนหนึ่งว่าเป็นหน้าที่ของทุก ๆ คน ต้องดูแลรักษาปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยไม่แบ่งแยกชาติตระกูล สีผิว และศาสนา เพื่อสันติสุขของปักษ์ใต้บ้านเราต่อไปอย่างมั่นคง ถาวร และยั่งยืน--จบ--