กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--syllablegroup
กรมการท่องเที่ยวชี้ยกเลิกเคอร์ฟิวพื้นที่ท่องเที่ยวหลักหนุนท่องเที่ยวฟื้นตัวหลังเดือนพฤษภาคมติดลบร้อยละ 10.66 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และ 5เดือนแรก ม.ค.-พ.ค.ติดลบร้อยละ 5.93% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สรุปสถานการณ์นักท่องเที่ยวในเดือนพฤษภาคม2557 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวหดตัวลงอย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยยังได้รับข่าวดีจากการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง
ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของเดือนพฤษภาคม 2557 ยังคงอยู่ในแนวลบ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกและการรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม จากการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวของ คสช. ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลังคือ พัทยา เกาะสมุยและภูเก็ต ได้ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยตื่นตัวพร้อมเดินหน้าต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้กลับเข้ามาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้ง
ทั้งนี้ จากตัวเลขที่อยู่ในแนวลบมาตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดกรมการท่องเที่ยวจึงคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2557 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย 26.3 ล้านคน อย่างไรก็ตามถ้ามีการเห็นชอบนโยบายอัดฉีดมาตรการส่งเสริมและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลับเข้ามาเที่ยวไทย คาดว่าในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ จะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งของคนต่างชาติและคนไทยเที่ยวในประเทศจากเดิมที่ตั้งไว้ตลอดปี 2557 ที่ 2 ล้านล้านบาทขณะนี้ได้ปรับประมาณการลงมาที่ 1.8 ล้านล้านบาทก่อน แต่ตัวเลขประมาณการรายได้อาจสูงขึ้นตามลำดับโดยมีเงื่อนไขว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เห็นชอบการออกมาตรการกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้เพราะต้องรอดูสถานการณ์ของเดือนมิถุนายนนี้ประกอบการประมวลผลก่อน
สำหรับสถานการณ์นักท่องเที่ยวในเดือนพฤษภาคม 2557 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 1,736,744 คน หดตัวร้อยละ 10.66 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้ง 5 เดือนที่ผ่านมามีจำนวน 10,357,388 คน เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวของปีที่แล้วมีการหดตัวร้อยละ 5.93 หรือ ลดลง 652,339 คน ส่งผลให้ 5 เดือนแรกของปีมีรายได้เข้าประเทศ 75,993.99 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของปีที่ผ่านมาร้อยละ 3.91
จำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากประเทศลาว ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 30.28 นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 14.09 นักท่องเที่ยวจากเวียดนาม ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 7.82 และนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 3.81 ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวนั้น รายได้จากนักท่องเที่ยวจากสวิตเซอร์แลนด์ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 14.09 ฝรั่งเศสปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 12.92 และเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 3.53
ในด้านความเชื่อมั่นของนานาชาติต่อสถานการณ์ในประเทศไทย มีเพียงประเทศเดียวคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ประกาศห้ามพลเมืองของตนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนั้นมีจำนวน 46 ประเทศที่แจ้งเตือนสถานการณ์และให้ใช้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม และมี 20 ประเทศที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการเดินทางที่ไม่จำเป็นสำหรับการมาเยือนประเทศไทย