กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--โฟร์ฮันเดรท
“อิตัลไทยวิศวกรรม” ภายใต้ อิตัลไทย กรุ๊ป สบช่องการเมืองเครียด เร่งทยอยส่งมอบงาน และเข้าประมูลงานอีกเพียบ ล่าสุดส่งมอบโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยลาดหญ้าและบางปลาแบบ GIS Indoor 69 และ 115 kV และทยอยส่งมอบอีก 2 แห่ง คือ สถานีฯ ลาดปลาเค้าและวัดคู่สร้างของกฟน. ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโดยจะส่งมอบภายในเดือน ต.ค. ปีนี้ รวมมูลค่ากว่า 820 ล้านบาท หลังจากนี้ถึงสิ้นปี 2557 เตรียมเข้าประมูลงานกว่า 15,000 ล้านบาท ทั้งในและต่างประเทศ คาดได้ไม่น้อยกว่า 30% ยังไม่รวมงานประมูลงานโรงไฟฟ้าในประเทศพม่าอีกประมาณ 200 ล้านบาท
นายสกล เหล่าสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด หรือ (ITALTHAI Engineering : ITE) หนึ่งในบริษัทผู้นำตลาดทางด้านวิศวกรรม ภายใต้ “อิตัลไทย กรุ๊ป” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้รับอนุมัติการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเมื่อปลายปี 2556 โดยเพิ่มจาก 306 ล้านบาทเป็น 530 ล้านบาท โดยเงินจากการเพิ่มทุนส่วนหนึ่งจะถูกนำมาเสริมสภาพคล่องในการรับงานประมูลโครงการที่มีมูลค่าสูง อีกส่วนหนึ่งจะถูกนำมาขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งเพื่อรองรับประชาคมธุรกิจอาเซียน การขยายตลาดการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง รวมถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกซึ่งกำลังอยู่ในการพิจารณาของบริษัทฯในขณะนี้ ซึ่งทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
โดยบริษัทฯ สามารถเร่งทยอยส่งมอบงานได้ตามกำหนดของการไฟฟ้านครหลวง เริ่มด้วยโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยลาดหญ้าแบบ GIS Indoor 69/24 kV เป็นงานก่อสร้างอาคารสถานีควบคุมแบบ 3 ชั้น มูลค่างาน 200 ล้านบาท พร้อมติดตั้งใช้งานอุปกรณ์ Gas Insulated Switchgear (GIS) และ Substation Automation System (SA) เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับบ้านเรือน ชุมชน ธุรกิจห้างร้าน และผู้ใช้ไฟทั่วไปในเขตคลองสานและพื้นที่ใกล้เคียง
และสถานีไฟฟ้าย่อยลาดปลาเค้า มูลค่างาน 220 ล้านบาท งานก่อสร้างอาคารสถานีควบคุมแบบ 3 ชั้น รวมถึงบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินหน้าสถานี เป็นสถานีไฟฟ้าระบบ 115/24 kV GIS จ่ายกระแสไฟฟ้ารองรับสถานีรถไฟฟ้า BTS ที่จะมีในอนาคต และชุมชนในบริเวณรามอินทรา และสถานีไฟฟ้าย่อยวัดคู่สร้าง มูลค่างาน 250 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างอาคารสถานีควบคุมแบบ 2 ชั้น เป็นสถานีไฟฟ้าระบบ 115/24 kV GIS ในชุมชนในบริเวณตำบลในคลองบางปลากดและบริเวณข้างเคียง จ.สมุทรปราการ
นายสกล กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับงานที่มีโครงการจะเปิดประมูลอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ถึงสิ้นปี 2557 มีมูลค่ากว่าประมาณ 15,000 ล้านบาททั้งในและนอกประเทศ โดยแบ่งเป็น ภาครัฐบาลได้แก่การไฟฟ้านครหลวงประมาณ 2,000 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประมาณ 2,000 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯประมาณ 3,000 ล้านบาท ในส่วนของภาคเอกชนภายในประเทศอีกกว่า 7,000 ล้านบาท ได้แก่ กลุ่มปิโตรเคมี มูลค่า 2,000 ล้านบาท กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและพลังความร้อน มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท กลุ่มงานระบบอาคาร มูลค่า 2,000 ล้านบาท บริษัทฯคาดว่าจะสามารถชนะการประมูลงานได้มากกว่า 30% และคาดว่าจะสามารถชนะการประมูลงานโรงไฟฟ้าในประเทศพม่าอีกประมาณ 200 ล้านบาท”
“และในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 กว่า 130% ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ในระดับเดียวกับปีก่อนประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมุ่งเน้นไปที่การรักษาฐานการตลาดที่บริษัทมีความชำนาญ และการเตรียมความพร้อมขององค์กร บุคลากร ระบบฐานข้อมูล เทคโนโลยี Software การออกแบบวิศวกรรม 3 มิติ และโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อรองรับแผนงานและการเติบโตในอนาคต” นายสกล กล่าวสรุปในตอนท้าย