กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
นายพรชัย ปัทมินทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารมีความพร้อมเต็มสูบในการรุกธุรกิจขนาดใหญ่ หลังปรับโครงสร้างสายงานธุรกิจขนาดใหญ่ (Wholesale Banking Group) เสร็จสมบูรณ์ โดยผสานพลังสายงานบรรษัทธุรกิจและวาณิชธนกิจเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้บริการลูกค้าได้ครบทุกความต้องการ ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น เข้าถึงมากขึ้น และบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะรุกธุรกิจด้วยการปักธงเรื่องอาเซียน ซึ่งเป็นจุดแข็งของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆในตลาด โดยธนาคารได้ตั้งโต๊ะอาเซียนขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาแก่บริษัทไทยที่ต้องการแสวงหาโอกาสใหม่ๆในตลาดอาเซียนที่กำลังจะขยายใหญ่ขึ้นทันทีเมื่อ AEC มาถึง
สำหรับโครงสร้างใหม่ของสายงาน Wholesale Banking ประกอบด้วย 5 ทีมหลัก ได้แก่ 1.สายบรรษัทธุรกิจ (Corporate Banking Group) 2.สายวาณิชธนกิจ (Investment Banking Group) 3.ด้านธุรกิจสถาบันการเงิน (Financial Institution Thailand Division) 4.ด้านวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง (Credit and Operational Risk Analytics Division) 5.ด้านกลยุทธ์และสนับสนุนธุรกิจ (Strategy and Support Division) โดยทีมหลักๆเหล่านี้จะทำงานคู่ขนานไปกับโต๊ะอาเซียน โดยแบ่งเป็น ทีมอาเซียน 1 และ ทีมอาเซียน 2 โดย 2 ทีมนี้จะแบ่งกันทำหน้าที่ตามรายอุตสาหกรรมหลักของลูกค้า
“เมื่อเราได้ปรับภายในจนสร้างสายงาน Wholesale Banking เป็นที่เรียบร้อย เราพบว่าคนของเราทำงานประสานกันโดยทุกคนรู้ขอบข่ายงานและหน้าที่ของตัวเองชัดเจน พร้อมแล้วที่จะเดินหน้า ซึ่งผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือ ลูกค้า เพราะแบงก์จะให้บริการลูกค้าได้ง่ายขึ้น ใกล้ชิดขึ้น ตรงประเด็นมากขึ้น ทำงานสอดผสานกันดีขึ้นกับผลิตภัณฑ์ทุกประเภทในแบงก์ ควบคู่ไปกับเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแต่ละรายอุตสาหกรรม ยิ่งไปกว่านั้น จุดแข็งที่แตกต่างจากตลาด คือ ASEAN Platform การมีผู้เชี่ยวชาญในแบงก์ มีคนในกรุ๊ป และมีเครือข่ายทั่วภูมิภาค เราอยากทำงานภายในแนวคิดหลัก ‘I see the Difference’ เพราะถ้ายังทำงานเหมือนผู้เล่นทุกคนในวงการ เราต้องสู้กันด้วยราคา เราจึงขอแข่งด้วยบริการเรื่องอาเซียนที่ดีที่สุด มองเห็นโอกาสที่แตกต่าง และลงไปทำในสิ่งที่แตกต่างจริงๆ”
นายพรชัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนออกมาค่อนข้างดี สายงาน Wholesale Banking สามารถทำรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต 18% รายได้ค่าธรรมเนียม เติบโต 48% และสามารถสร้างรายได้ที่เกิดจากธุรกรรมเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนเติบโต 55%
ขณะที่เป้าหมายหลักของปี 2557 คือ การตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 69% จากปี 2556 โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเติบโต 17% หรือ 1 หมื่นล้านบาทจากปี 2556 ด้านเงินฝากตั้งเป้าจะระดมเงินฝากเข้ามาใหม่เติบโต 21% จากฐานลูกค้าใหม่ 30 บริษัทในปีนี้
“แบงก์เห็นโอกาสอีกมากรออยู่ในตลาดอาเซียน ประตูเปิดรอไว้อยู่แล้วไม่ว่าคุณจะพร้อมหรือไม่ เดิมบริษัทในไทยเคยพึ่งพารายได้จากในประเทศทั้ง 100% หากปัจจัยภายในไม่เอื้ออำนวย รายได้ก็ลดลงไปด้วย แบงก์จึงอยากช่วยลูกค้าหาตะกร้าใบใหม่มากระจายความเสี่ยงด้านรายได้ อนาคตหากยอดขายในประเทศหายไปสักครึ่งหนึ่ง คุณอาจได้รายได้ใหม่จากตลาดนอกประเทศชดเชยกลับมามากกว่าบาทก็ได้ เพราะปลายปี 2558 เมื่อ AEC เกิดขึ้น กำแพงและอุปสรรคต่างๆถูกทำลายลง บ่อปลาจะขยายกลายเป็นมหาสมุทรทันที” นายพรชัย กล่าว