นักวิเคราะห์ชี้นโยบายแปรรูปภาครัฐช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันกลุ่มพลังงาน

ข่าวทั่วไป Tuesday June 29, 1999 16:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--29 มิ.ย.--ตลท.
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนชี้แนวโน้มหุ้นกลุ่มพลังงานยังดี เนื่องจากความต้องการในการใช้ไฟฟ้าและพลังงานยังมีปริมาณมากขึ้นแต่ผู้ลงทุนต้องติดตามข้อมูลผลประกอบการ และศึกษาความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
นางสาวพัชริน เกษมอานันทนะ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของ บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนครั้งที่ 4 : กลุ่มพลังงาน ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2542 ณ ห้องประชุม อาคารตลาดหลักทรัพย์ว่า กลุ่มพลังงานประกอบด้วยไฟฟ้า ถ่านหิน และ ปิโตรเลียม จากสภาวะเศรษฐที่ถดถอยส่งผลให้กำลังการใช้ ไฟฟ้า ถ่านหิน และปิโตรเลียมลดลง เนื่องจากกำลังการผลิตลดลงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ในปี 41 ลดลง 2.25 การใช้ลิกไนต์ลดลงจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโดยลดลงร้อยละ 11 นอกจากนี้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ได้ลดกำลังการผลิตมากกว่าร้อยละ 30 ด้านน้ำมันดิบ และ ก๊าซปิโตรเลียม เนื่องจากในปี 41 ความต้องการของตลาดโลกมีปริมาณลดลงแต่ปริมาณการผลิตยังคงที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง ในส่วนของก๊าซธรรมชาตินั้นมีปริมาณการใช้เพิ่มมากขึ้น โดยในปี 41 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้ภาคอุตสาหกรรมมีการใช้ก๊าซมากขึ้น ซึ่งในระหว่างปี 42-48 คาดว่าอัตราการใช้ก๊าซจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มพลังงานได้มีการนำเสนอสถานะการดำเนินงานของบริษัทดังนี้
นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินงานของบริษัทว่า บริษัทมีการเลือกลงทุนในเหมือนถ่านหินที่มีคุณภาพ ให้ผลผลิตที่สูงและสามารถผลิตได้เร็วทั้งนี้ บริษัทมีการปรับกลยุทธในการดำเนินงาน เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทโดยมุ่งไปยังโรงไฟฟ้าที่มีการใช้ถ่านหินเป็นหลัก
นายวรวิทย์ ขำขนิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนพัฒนาโครงการดำเนินธุรกิจของบริษัทว่าบริษัทมีแผนที่จะเข้า ร่วมทุนกับรัฐบาลในกรณีที่ถ้ารัฐมีการขายโรงไฟฟ้าราชบุรี เนื่องจากการร่วมทุนดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเจริญเติมโตเพิ่มมากขึ้น การเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค เช่น ธุรกิจน้ำประปา การขยายตัวทางด้านบริการ นอกจากนี้บริษัทยังมีนโยบายที่จะไปร่วมลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ประเทศพิลิปปินเพราะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจน้อย ประกอบกับเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 2-5
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช รองผู้จัดการใหญ่ สายงานวางแผนและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)กล่าวถึงการดำเนินงานของบริษัทว่าทางด้านตลาดหรือโรงไฟฟ้านั้นบริษัทมีการเลือนลงทุนบางโครงการ เพื่อความเหมาะสม และมีการลงทุนเพิ่มเติมมี 2 โครงการคือการลดสัดส่วนบางโครงการ เนื่องจากตลาดก๊าซยังไม่ชัดเจน และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการใหม่ คือโครงการที่มีศักยภาพน้ำมันและโครงการทอยู่ในระดับการพัฒนาหรือการผลิต เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งภูมิภาคที่ทางบริษัทสนใจเข้าไปลงทุนคือภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค กับตะวันออกกลาง นอกจากนี้มีการดำเนินการในธุรกิจต่อเนื่องและจริงจัง โดยจะเริ่มในปีนี้ บริษัทมีการปรับลดค่าใช้จ่ายโดยการลดแผนงานที่ยังไม่มีความชัดเจน และลดสัดส่วนโครงการที่เป็น การสำรวจซึ่งยังมีความเสี่ยงอยู่แผนการขยายกิจการของบริษัทคือการเข้าไปซื้อสัดส่วนของโครงการบงกชเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท สำหรับแนวโน้มของบริษัทในปี ค.ศ. 2000 นั้น ธุรกิจหลักของบริษัทยังเป็นการผลิตปิโตรเลียมขายโดยเฉพาะก๊าซเป็นหลัก เพราะถึงแม้การใช้พลังงานโดยภาพรวมจะชะลอตัว แต่ตามแผนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะมีการใช้ก๊าซมากขึ้น นอกจากนี้จะมีการเพิ่มปริมาณการผลิตในปลายปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดยบริษัทมุ่งที่จะดำเนินการในการขยายตัวที่ต่อเนื่อง คือมองในเรื่องของการลงทุนในเอเชีย แปซิฟิค และตะวันออกกลาง ธุรกิจที่เกี่ยวพันที่สามารถเสริมสร้างรายได้ให้กับธุรกิจหลัก
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์กำหนดจะจัดการสัมมนา บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน ครั้งที่ 5 : กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2542
ผู้สนใจทั่วไป สามารถติดต่อสอบถาม และสำรองได้ที่ ฝ่ายสารนิเทศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โทร. 229-2040-3--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ