กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรค
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กำชับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ในสังกัด เข้มงวดเฝ้าระวังการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือไวรัสเมอร์สอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงวิกฤติ มีผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากรายงานการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 ณ วันที่ 15 พ.ค. 2557 ขององค์การอนามัยโลก พบผู้ป่วย 572 ราย เสียชีวิต 173 ราย โดยพบรายงานผู้ป่วยทั้งหมด จาก 19 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส ตูนิเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน คูเวต มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กรีซ อียิปต์ สหรัฐ อเมริกา เยเมน เนเธอร์แลนด์ และเลบานอน ซึ่งจากการประเมินความเสี่ยงของกรมควบคุมโรคพบว่าขณะนี้ประเทศไทยยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของดังกล่าว เนื่องจากมีประชาชนชาวไทยเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ พิธีฮัจญ์ และมีนักท่องเที่ยวจากประเทศทางแถบตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา จึงได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทุกด่านในสังกัด ได้แก่ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าเรือสงขลา พรมแดนสะเดา พรมแดนปาดังเบซาร์ พรมแดนบ้านประกอบ พรมแดนเบตง พรมแดนสุไหงโกลก และพรมแดนบูเก๊ะตา เข้มงวดการดำเนินการตามมาตรฐานการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อกับผู้ป่วยทุกราย ตลอดเวลา อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องคำนึงถึงการวินิจฉัยของโรค แต่ให้สังเกตุอาการต้องสงสัยเช่น ไอ จาม มีไข้สูง เนื่องจากไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนที่มีอาการรุนแรง มีเพียงบางรายที่มีอาการรุนแรงหรือผิดปกติ ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้ป่วยรายอื่น รวมทั้งแจ้งให้คณะทำงานพัฒนาช่องทางเข้าออกประเทศ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ศุลกากร และผู้บริหารช่องทางเข้าออกประเทศที่ด่านตั้งอยู่ทราบถึงสถานการณ์ และร่วมมือในการเฝ้าระวังโรค เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าวตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ
ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 เป็นโรคติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจรุนแรง เฉียบพลัน มีการติดต่อของโรคจากคนสู่คนได้ โดยเฉพาะการแพร่เชื้อจากผู้ป่วยไปยังสมาชิกในครอบครัว และผู้สัมผัสใกล้ชิด ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและรักษาโดยเฉพาะ การป้องกันที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอ หรือจาม การเข้าไปในพื้นที่แออัด หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่แออัด ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หากมีอาการคล้ายไข้หวัด และอาการไม่ดีขึ้น หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สวยด่วนกรมควบคุมโรค 1422