UAC เร่งบริษัทร่วมทุนลุยผลิตไบโอดีเซลเพิ่ม เป็น 8.1 แสนลิตร/วัน รับภาครัฐปรับสูตรใหม่ -หนุนรายได้เข้าเป้า1.2 พันล.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 9, 2014 12:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ.ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC เร่งผลักดันโครงการเพิ่มการผลิตไบโอดีเซล ภายใต้โรงงานร่วมทุน บริษัท บางจากไบโอฟูเอล (BBF) เพิ่ม เป็น 8.1 แสนลิตรต่อวัน จากเดิมผลิตที่ 3.6 แสนลิตรต่อวัน หลังรัฐไฟเขียวให้สูตรปรับสัดส่วนไบโอดีเซล ในน้ำมันดีเซล เป็น B7 พร้อมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 58 ด้าน “ ชัชพล ประสพโชค ” รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการ มั่นใจ บริษัทฯขยายการผลิตเพิ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้ที่สูงขึ้น เชื่อบริษัทฯจะมีรายได้เพิ่ม ลั่นปีนี้รายได้รวมแตะ 1.2 พันล้านบาท นายชัชพล ประสพโชค รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าในอุตสาหกรรมพลังงาน เปิดเผยถึงแผนความคืบหน้าส่วนขยายโครงการบางจากไบโอฟูเอล (BBF) ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัทฯที่ถือหุ้นอยู่ 30% และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP)ว่า ขณะนี้ BBF อยู่ระหว่างขั้นตอนการสรรหาผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้จะมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมผลิตในเชิงพาณิชย์ภายในปี2558 เป็นต้นไป ซึ่งก็จะส่งผ ลให้ BBF มีกำลังการผลิตไบโอดีเซล เพิ่มเป็น 8.1 แสนลิตรต่อวัน จากปัจจุบัน อยู่ที่ 3.6 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งจากแผนการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับการรองรับความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล หลังจากที่ล่าสุดกรมธุรกิจพลังงานได้มีการปรับเพิ่มส่วนไบโอดีเซล(B100)ในน้ำมันดีเซล (B7) เป็น 7 % จาก 3.5 % ในปัจจุบัน ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ส่วนความคืบหน้า โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพจากหญ้าเนเปียร์นั้น รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล กล่าวว่า โครงการCBG ทั้ง 21 แห่ง ได้ปรับมาผลิตไฟฟ้าแทนโดยมีกำลังการผลิตโรงละ 1.5 MW จะเสร็จตามกำหนดที่วางไว้ภายในปี 2558 โดยแบ่งเป็น ภาคเหนือ 10 แห่ง และอีสาน 11 แห่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯได้ก่อสร้างในภาคเหนือไปแล้ว 4 แห่ง ส่วนในภาคอีสาน ก่อสร้างไปแล้ว 2 แห่ง โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2558 เป็นต้นไป สำหรับโครงการโซล่าร์รูฟ 3 โครงการ กำลังผลิตรวม 1.3 MW ก็เดินหน้าตามแผนงานจะ COD 2 โครงการแรกภายในเดือน กรกฎาคมนี้ และอีก 1 โครงการภายในเดือนตุลาคมปีนี้ ดังนั้นในปี 2558 บริษัทฯ จะมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 30 MW “ นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ 2-3 ราย รวมถึงเจรจาเข้าซื้อกิจการธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ตามแผนนโยบายของบริษัทฯ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปีนี้ อย่างน้อย 1 โครงการ ” นายชัชพล กล่าว อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทฯยังคงประมาณการรายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจพลังงานทางเลือก ประมาณ 20% ของรายได้รวม เปรียบเทียบกับปี 2556 ที่บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนไม่มาก ขณะเดียวกันเชื่อว่าในปี 2558 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงาน จะมากกว่า 50% ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการให้มีสัดส่วนรายได้จากพลังงานทางเลือก 50% และจากธุรกิจซื้อมาขายไปกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ ประมาณ 50% เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากทางใดทางหนึ่งมากเกินไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ