กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--มัคคานซิส
ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 มัคคานซิส บริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านข้อมูลและกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมไอซีที ได้ทำการสำรวจออนไลน์ พบ 4 เทรนด์หลักของคนเมืองที่น่าจับตามอง ดังนี้
- เทรนด์การพกสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 2 เครื่องต่อคน ยังแรงไม่หยุด ในขณะที่แท็บเล็ตเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างที่ถือครองอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 1 เครื่อง มีมากถึงร้อยละ 70 ซึ่งสูงขึ้นกว่าปีก่อน บ่งบอกให้เห็นถึงความนิยมการใช้อุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับราคาอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ที่ลดลง ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งานและราคา ส่วนความนิยมของประเภทของสมาร์ทดีไวซ์ ยังคงเป็นไปในทิศทางเดิม คือ สมาร์ทโฟนครองแชมป์ ตามด้วยแท็บเล็ต ทาง มัคคานซิส วิคราะห์ว่า กระแสความนิยมดังกล่าวเชื่อว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ให้บริการมีการออกกลยุทธ์กระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการออกตัวเครื่องหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาถูกจนถึงแพง ผนวกกับสัญญาณเครือข่าย 3G ที่ผู้ให้บริการได้มีการพัฒนาขยายไปในวงกว้าง ตลอดจนการตรียมแผนงาน 4G ที่ผู้ให้บริการได้เริ่มมีการให้บริการไปบางพื้นที่แล้วนั้น ทำให้ผู้ใช้งานได้ให้ความสนใจในการเลือกอุปกรณ์ขนาดพกพาเพิ่มเติมจากสมาร์ทโฟนได้อย่างไม่ยาก เพื่อตอบสนองทั้งงาน และความบันเทิงส่วนตัว
- เทรนด์การโทรผ่านแอพเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยกินสัดส่วนของการโทรแบบธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด
แอพพลิเคชั่นสื่อสารได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook และ Instagram ซึ่งผู้ใช้ สมาร์ทดีไวซ์มากกว่าร้อยละ 90 ได้ให้การยอมรับให้เป็นช่องทางในการสื่อสารหลัก ในขณะที่กิจกรรมผ่านแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมที่นิยมส่วนใหญ่ มักจะเป็นกิจกรรมที่ไม่เสียค่าบริการ เช่น การดาวโหลดสติกเกอร์ฟรี หรือ โทรศัพท์ฟรี ยิ่งกว่านั้น ผลสำรวจพบว่า การโทรศัพท์ผ่านแอพพลิเคชั่น มีแนวโน้มสูงถือร้อยละ 74 ของผู้ครอบครองสมาร์ทดีไวซ์ โดยสัดส่วนการโทรผ่านแอพพลิเคชั่นต่อการโทรศัพท์ทั้งหมด มีอัตราสูงถึงร้อยละ 38 ดังนั้น ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหลักต้องเฝ้าระวังรายได้ในส่วนของบริการรูปแบบเสียง เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะ ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ที่มีอยู่ลดลงอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หากไม่มีโปรแกรมส่งเสริมการขายใดเข้ามาช่วยชะลอการใช้งานในส่วนนี้
- เทรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สวมใส่ (Wearable Device) เริ่มเป็นที่รู้จักและมีบทบาทมากขึ้นในกลุ่มคนสนใจในเทคโนโลยี และสุขภาพ
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สวมใส่ (Wearable Device) เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ประชากรอินเทอร์เน็ต โดยพบว่าผู้ชายมีสัดส่วนที่รู้จักอุปกรณ์เหล่านี้มากกว่าผู้หญิง โดยอุปกรณ์ประเภทนาฬิกาเป็นที่รู้จักมากที่สุด ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็น จากยอดขายที่โตของอุปกรณ์ประเภทนี้ อุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอันดับรองลงมา คือประเภทแว่นตา ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งรู้จักอุปกรณ์ชนิดนี้ ถึงแม้ว่ายังไม่ได้การจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
- เทรนด์การทำงานนอกสถานที่ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนทำงาน เพื่อความคล่องตัวและความต่อเนื่องของงาน
กลุ่มตัวอย่างในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 85 ได้มีการทำงานที่บ้าน อันดับรองร้านกาแฟ ร้อยละ 60 และออฟฟิศที่ไม่ใช่บริษัทตัวเองและร้านอาหารมีสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 30 โดยการทำงานนอกสถานที่ กลุ่มตัวอย่างได้มีความจำเป็นใช้อินเทอร์เน็ต โดยนิยมเชื่อมผ่านรูปแบบ Wi-Fi เป็นส่วนใหญ่ และอันดับรองลงมาเป็นการเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งสัดส่วนความนิยมมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้บริการต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งแบบมีสาย และไร้สายเพื่อช่วยให้คล่องตัวในการทำงานเวลาอยู่นอกสถานที่
นาย ธนพล จิตชัยโภคา นักวิเคราะห์จากมัคคานซิส ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ทิศทางของเทคโนโลยีในประเทศไทยยังคงสามารถเติบโตและพัฒนาไปได้อีกเนื่องจากความต้องการที่ต้องการตอบสนองยังคงมีอยู่มากในตลาด ซึ่งในปัจจุบัน ผู้ให้บริการได้ตอบสนองความต้องการแล้วเพียงบางกลุ่ม ซึ่งยังคงเหลือกลุ่มผู้ใช้บริการอีกจำนวนมากที่ยังรอใช้บริการที่เหมาะสมกับตนเอง และสามารถที่จะเข้าถึงได้ และจ่ายได้อย่างไม่ยากนัก