กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ทิสโก้ เวลธ์ ชี้ “หุ้นเยอรมัน” ฉายแววสดใสมากขึ้น หลังตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และภาคการส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เศรษฐกิจฟื้นตัวโดดเด่น หนุนตลาดหุ้นเยอรมันน่าลงทุน ราคาหุ้นถูก อนาคตดี แนะเพิ่มพอร์ตลงทุน
นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ (Mr.Komsorn Prakobphol, Senior Strategist, TISCO Wealth) เปิดเผยว่า ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) ประเมินว่า ขณะนี้การลงทุนใน “ตลาดหุ้นเยอรมัน” มีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นเยอรมันยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางการเยอรมัน ได้ประกาศตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม (IP) เดือน เม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีภาคก่อสร้างเป็นแรงฉุดที่สำคัญ (หากไม่รวมภาคก่อสร้าง IP จะขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า) นอกจากนี้ดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.74 หมื่นล้านยูโร (เทียบกับ 1.66 หมื่นล้านยูโร ณ เดือนก่อน และ 1.57 หมื่นล้านยูโรตามที่ตลาดคาด) โดยส่งออกเพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังหดตัวในสองเดือนก่อน ด้านนำเข้าขยายตัวเล็กน้อย 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นเยอรมัน ยังคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นที่สุดในยุโรป รวมถึงการได้รับผลบวกจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งผลบวกต่อสภาพคล่อง และช่วยกระตุ้นการปล่อยกู้ในยุโรป อีกทั้งเชื่อว่าสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ sentiment ของตลาดที่ดีขึ้นจากการประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินดังกล่าว จะส่งผลให้ตลาดหุ้นในยุโรปสามารถเทรดที่ valuation สูงขึ้นได้ โดยตลาดหุ้นเยอรมันนี ซึ่งซื้อขายที่ P/E ต่ำสุดในยุโรปน่าจะได้รับผลบวกโดยตรงจากประเด็นนี้
โดยในปัจจุบันดัชนี DAX ของเยอรมัน ซื้อขายที่ระดับ P/E ประมาณ 13.8 เท่า และต่ำกว่าดัชนี Europe STOXX600 ซึ่งซื้อขายที่ P/E ราว 15.4 เท่า ทำให้ตลาดหุ้นเยอรมันยังมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นได้อีกมาก จึงเชื่อว่าตลาดหุ้นเยอรมันจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้ในระดับที่น่าพอใจแก่นักลงทุนได้ในปีนี้
“เรามองว่าด้วยตัวเลขล่าสุดที่ทางการเยอรมันได้ประกาศออกมา ทำให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมันที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมัน ที่ล้วนแต่เป็นบริษัทชั้นนำซึ่งมีฐานลูกค้าอยู่ทั่วโลก อาทิ BMW, Volkswagen, Daimler, Allianz, Bayer, Siemens และ Adidas เป็นต้น ซึ่งจะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและยุโรปอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้นเยอรมันมีมากขึ้น ดังนั้นเรามองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมันถือเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม และควรมีไว้ในพอร์ตลงทุนเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทน” นายคมศร กล่าว