กรุงเทพ--7 พ.ค.--ศูนย์ประชาสัมพันธ์กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13
คณะกรรมการบริหารจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13เห็นชอบในหลักการที่จะตั้งผู้อำนวยการศูนย์กีฬาและผู้จัดการสนามแข่งขันตามโครงสร้างที่คณะทำงานซึ่งมีฝ่ายเลขาธิการคณะกรรมการจัดการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ประสานงานจัดทำและนำเสนอ
ที่ห้องสีเขียว ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประธานคณะกรรมการบริหารการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13ได้เรียกประชุมกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาเรื่องการตั้งผู้บริหารจัดการศูนย์กีฬาและสนามแข่งขันต่างๆเพื่อให้การประสานงานระหว่างฝ่ายต่างๆภายในสนามเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้นโดยที่ประชุมในวันนี้ได้อภิปรายอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับโครงสร้างที่ฝ่ายเลขาธิการได้ประสานงานจัดทำและนำเสนอและในที่สุดได้เห็นชอบในหลักการที่จะมีการแต่งตั้งบุคคลเพื่อรับผิดชอบใน 3ศูนย์กีฬาหลัก และ 16 สนามแข่งขันรองลงไปกับสนามกีฬาในต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้นมาใหม่อีก 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 26แห่ง
ทั้งนี้ สำหรับ 3 ศูนย์กีฬาหลัก คือศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ศูนย์กีฬาเมืองทองธานีและศูนย์กีฬาหัวหมาก จะมีตำแหน่งหลักคือ ผู้อำนวยการศูนย์ๆ ละ 1 คนและผู้็ู้จัดการสนามในแต่ละสนามภายในแต่ละศูนย์โดยผู้อำนวยการศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำหนดไว้ว่าจะเป็น รศ.นรนิติเศรษฐบุตร อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์เมืองทองธานีคือนายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัทบางกอกแลนด์และผู้อำนวยการศูนย์กีฬาหัวหมาก คือ นายศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
สำหรับสนามกีฬาที่อยู่นอก 3 ศูนย์หลักแต่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวม 16 สนาม จะไม่มีผู้อำนวยการศูนย์แต่ผู้ดูแลสูงสุดจะเป็น ผู้จัดการสนาม (Venue Manager) ทั้งนี้โดยหลักการจะแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสถานที่นั้นๆ เป็นผู้รับผิดชอบเช่น สนามคลอง 6 ผู้จัดการสนามคืออธิบดีกรมพลศึกษา สนามองครักษ์เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนรินทรวิโรฒ สนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ผู้จัดการสนามคือ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ขณะเดียวกัน สำหรับสนามในต่างจังหวัด 7แห่ง จะแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดเป็นผู้จัดการสนาม
นอกจาก 2 ตำแหน่งสำคัญนั้นแล้วจะมีการตั้งผู้แทนของสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้องและผู้แทนจากกรรมการฝ่ายต่างๆเข้าร่วมเป็นกรรมการบริหารจัดการภายในสนามต่างๆตามความจำเป็นของแต่ละแห่ง
สำหรับหน้าที่ของผู้อำนวยการศูนย์กีฬาและผู้จัดการสนามแข่งขันแต่ละแห่งนั้นในหลักการแล้ว จะมีอยู่ 4 ประการด้วยกันคือ 1จัดทำแผนปฏิบัติการทุกเรื่องภายในสนามที่จะต้องรับผิดฃอบ 2ทำหน้าที่บริหารจัดการ 3 แก้ปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นภายในสนามนั้นๆ และ 4สรุปรายงานผลการดำเนินงานหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน
เมื่อที่ประชุมรับหลักการในวันนี้แล้วจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและหน้าที่ความรับผิดชอบกันอีกครั้งในวันที่4 พฤษภาคม และนายจุรินทร์มอบหมายให้นำเสนอรายชื่อบุคคลที่จะเป็นผู้อำนวยการศูนย์และผู้จัดการสนามพร้อมหน้าที่รับผิดฃอบโดยละเอียดของแต่ละแห่งเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแข่งเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ในวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อพิจารณาอนุมัติแต่งตั้งต่อไปและเมื่อได้ตัวผู้อำนวยการศูนย์และผู้จัดการสนามเรียบร้อยจะได้พิจารณากันต่อไปว่าจะต้องปฏิบัติบัติงานเต็มเวลาหรือไม่เริ่มต้นเมื่อไรซึ่งคาดว่าขบวนการจัดทำรายละเอียดทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมและหลังจากนั้นจึงจะได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการผู้อำนวยการและผู้จัดการสนามต่อไปในต้นเดือนมิถุนายน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ โทร.618-2323 ต่อ 2523-9โทรสาร 6183600-3--จบ--