กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--เกรลิ่ง
ราช ซูบรามาเนียม รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์ การตลาดและการสื่อสารทั่วโลก เฟดเอ็กซ์ เซอร์วิส
ประเทศในกลุ่ม MINT ที่ประกอบด้วย เม็กซิโก อินโดนีเซีย ไนจีเรีย ตุรกี หรือกลุ่มประเทศ CIVETS ที่มีประเทศโคลัมเบีย อินโดนีเซีย เวียดนาม อียิปต์ ตุรกี แอฟริกาใต้ ซึ่งไม่ว่าจะมองไปทางไหน สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจระหว่างประเทศแล้ว กลุ่มประเทศทั้งสองนี้นับวันยิ่งจะมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น และควรค่าแก่การจับตาดูในระยะยาว เนื่องจากประเทศเหล่านี้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีโอกาสและความเป็นไปได้สูงมาก ทั้งยังมีเศรษฐกิจที่คึกคัก เพียงแต่ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างยืดเส้นยืดสายเท่านั้น แต่ว่าภายในปี 2050 มีการคาดการณ์ว่าประเทศเหล่านี้จะมีขนาดเศรษฐกิจรวมกันใหญ่ติดอันดับ 20 ประเทศที่มีความสำคัญต่อจีดีพีของโลกเลยทีเดียว
นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งที่ได้เห็นศักยภาพของตลาดใหม่เหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนอย่างผมที่เคยทำงานกับเฟดเอ็กซ์มาแล้วในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เพราะผมสนใจใคร่รู้มากว่าตลาดใหม่เหล่านี้จะมุ่งหน้าไปในทิศทางใด
ดูอย่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตัวอย่าง ซึ่งมีจีน เวียดนามและอินโดนีเซียติดกลุ่มผู้นำประเทศที่มีการเติบโตสูงสุดภายในเขตการค้าในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเวียดนามและอินโดนีเซียได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งที่ประเทศในกลุ่ม MINT และ CIVETS ต่างก็มีเหมือนกัน นั่นคือ เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้ซื้อที่มีศักยภาพ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีสินค้าโภคภัณฑ์ขาย และยังมีประชากรคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาดีเพิ่มจำนวนขึ้น และมีความกระตือรือร้นในการทำงานและมีเงินที่จะใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีการเชื่อมโยงไปยังตลาดโลกที่ดีกว่า ทั้งในทางกายภาพและทางออนไลน์
ขณะที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความแตกต่างกันทั้งระหว่างตลาดและภายในตลาด ประเทศเศรษฐกิจใหม่เหล่านี้ถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักสำหรับการเติบโตในแง่ของการใช้อินเทอร์เน็ตของโลก ตัวอย่างเช่น อัตราการใช้อินเทอร์เน็ตในไนจีเรียและเวียดนามเติบโตเพิ่มขึ้นจากที่มีผู้ใช้ 2 แสนคนในปี 2000 เพิ่มขึ้นเป็น 48 ล้านคน และ 31 ล้านคนในปี 2012 ตามลำดับ
การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ กำลังเปิดโอกาสอย่างมหาศาล ทั้งการเข้าถึงข้อมูลและยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ อันเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจข้ามชาติหรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจในการที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดโลก
แต่ลำพังอินเทอร์เน็ตอย่างเดียวไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากนัก การเดินทางไปสู่ความสำเร็จของตลาดใหม่จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่เหมาะสมเพื่อรองรับการเชื่อมโยงที่มีความหมายยิ่งในแวดวงธุรกิจที่สามารถเชื่อมโยงจากตลาดไปยังผู้บริโภคทั่วโลก เฟดเอ็กซ์ยืนอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและโครงสร้างทางด้านข้อมูลที่มีความจำเป็นต่อการทำการค้าระดับโลก ทั้งนี้ เราได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเศรษฐกิจใหม่เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จับต้องได้ เช่น ถนนหนทาง สะพาน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ไฟฟ้า และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จับต้องไม่ได้ เช่น การเปิดเสรีของนโยบายทางการค้า และระบบการศึกษาที่ก้าวหน้าขึ้น
ทั้งนี้ การลงทุนที่เหมาะสมจะมอบอนาคตที่สดใสให้แก่ประเทศเหล่านี้ และช่วยส่งเสริมบทบาทของประเทศเหล่านี้ที่จะมีต่อตลาดโลกให้มีความสำคัญยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงการแบ่งกลุ่มประชากรที่กล่าวถึงมาก่อนหน้านี้ โดยตลาดส่วนใหญ่จะมีจำนวนประชากรวัยหนุ่มสาวต่อไปอีกนาน ซึ่งพวกนี้จะเข้ามาสู่ตลาดแรงงานใหม่ที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงจะกลายเป็นชนชั้นผู้บริโภคในเวลาเดียวกัน แต่ตลาดเหล่านี้จำเป็นจะต้องส่งเสริมประชากรของพวกเขาด้วยการจ้างงาน การให้โอกาสทางธุรกิจและการศึกษาให้มากขึ้น
เฟดเอ็กซ์ ยังคงเดินหน้าลงทุนในประเทศเศรษฐกิจใหม่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการเข้าซื้อกิจการและการเติบโตโดยธรรมชาติ ทั้งนี้ เฟดเอ็กซ์เป็นผู้ให้บริการขนส่งด่วนรายแรกที่เข้าสู่ตลาดประเทศจีนในปี 1984 และในปี 2007 เฟดเอ็กซ์กลายเป็นบริษัทที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมดและได้เปิดศูนย์บริการภายในประเทศขึ้นในประเทศจีน และล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ เฟดเอ็กซ์ได้เปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการให้บริการในภูมิภาคแปซิฟิกตอนเหนือ ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งศูนย์กลางแห่งนี้จะเปิดให้บริการแก่ลูกค้าที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงอินโดนีเซียและเวียดนาม เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงโอกาสทางการค้าทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกที่เปิดกว้างขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
วันนี้ ผู้ที่ทำธุรกิจจะต้องจับตามองไปยังตลาดใหม่ๆ ให้ดี เพราะมันกำลังเริ่มที่จะเติบโต จากสถิติของสำนักงานพาณิชย์ของสหรัฐ ระบุว่า 95% ของผู้บริโภคทั่วโลกอาศัยอยู่นอกประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อพิจารณาถึงการเติบโตในอัตราที่ช้าของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และการเชื่อมโยงโลกที่รวดเร็วขึ้นแล้ว ย่อมหมายความว่า บรรดาตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่เหล่านี้ย่อมมีอัตราการเข้าถึงที่สูงกว่า และมีโอกาสที่มากกว่าในการที่จะแข่งขันเพื่อไปสู่เศรษฐกิจที่มั่งคั่งในอนาคต