ตลท.ออกหลักเกณฑ์เรื่องการขายชอร์ต และค่าธรรมเนียมลูกค้าที่ไม่รวม VAT

ข่าวทั่วไป Tuesday November 4, 1997 14:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--4 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ออกข้อบังคับเรื่อง "หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการขายชอร์ต (Short Sell)" โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้นไป รวมทั้งการแก้ไขข้อบังคับเรื่อง และอัตราค่าธรรมเนียมที่คิดกับลูกค้าในอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. เรื่องหลักเกณฑ์การขายชอร์ต (Short Sell)
ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้ออกประกาศเรื่องการขายหลักทรัพย์ โดยที่บริษัทหลักทรัพย์ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครองโดยกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ทำการขายชอร์ตหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยต้องปฎิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ โดยให้สมาชิกขายชอร์ตได้เฉพาะหลักทรัพย์ที่อยู่ใน SET 50 Index จำนวน 50 หลักทรัพย์ โดยตลาดหลักทรัพย์จะทบทวนความเหมาะสมทุก 6 เดือน และให้สมาชิกดำเนินการให้ลูกค้าทั่วไปขายชอร์ตผ่านบัญชีมาร์จิ้นและยืมหลักทรัพย์เพื่อส่งมอบจากการขายชอร์ตจากสมาชิกเท่านั้น โดยในกรณีดังกล่าวสมาชิกต้องได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ด้วย ส่วนลูกค้าสถาบันที่มีการยืมหลักทรัพย์มาเอง เพื่อส่งมอบก็ให้สามารถขายชอร์ตผ่านบัญชีเงินสดได้ พร้อมทั้งให้สมาชิกจัดทำรายงานการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน และส่งรายงานดังกล่าวให้ตลาดหลักทรัพย์ผ่านระบบ Broker Reporting System (BRS) ภายในเวลา 20.00 น. ของวันทำการแต่ละวัน ทั้งนี้ข้อบังคับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้นไป
2. เรื่องอัตราค่าธรรมเนียมที่คิดกับลูกค้าในอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีมติให้แก้ไขข้อบังคับเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมในการปฎิบัติหน้าที่เป็นนายหน้าหรือตัวแทนในการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 กำหนดให้อัตราค่านายหน้าที่คิดกับลูกค้าเป็นอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่ผู้ใช้บริการเป็นผู้รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม
2.2 กำหนดให้สมาชิกเรียกเก็บค่านายหน้าจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการการกองทุนรวมในอัตราร้อยละ 60 ของค่านายหน้าที่เรียกเก็บจากลูกค้าทั่วไปได้เฉพาะในกรณีที่เป็นการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อกองทุนรวม ดังนั้น ในกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อกองทุนส่วนบุคคลจึงต้องเรียกเก็บค่านายหน้าในอัตราเดียวกับลูกค้าทั่วไป เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในการแข่งขันระหว่างผู้ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทจัดการกองทุนส่วนบุคคล ทั้งนี้ข้อบังคับดังกล่าว ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ