กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--พิตอน คอมมิวนิเคชั่น
บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด โดยคุณรัชตนันท์ พัฒนศิริรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสินค้าเกษตร จัดงานพบสื่อมวลชน ณ. ชั้น 9 อาคารเจเพรส แถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมรองรับมาตราการการจัดทำเขตการค้าเสรี หรือ FTA โดยเน้นการค้าระหว่างประเทศคู่สัญญาจะมีมากขึ้นทั้งสินค้านำเข้าและส่งออก เอสจีเอสเผยสัดส่วนสินค้าส่งออกปีนี้ลดลง แต่สัดส่วนการครองตลาดจะโตขึ้นกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ไม่กระทบแม้ก่อนหน้านี้มีภัยแล้งด้วยมาตราการรองรับในการตรวจสอบสินค้าการเกษตร
คุณรชตนันท์ พัฒนศิริรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสินค้าเกษตร บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เผยมาตราการรองรับการจัดทำเขตการค้าเสรี หรือ FTA ว่า “เอสจีเอสมีการวางแผนกลยุทธ์รองรับการเข้ามาของ FTA ไว้แล้ว ด้วยความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าการเกษตรของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการสนับสนุนการจัดการค้าระหว่างประเทศกับคู่สัญญามากขึ้นทั้งในส่วนของสินค้านำเข้าและส่งออก พร้อมจัดเตรียมบุคลากรโดยมีการรับพนักงานเพิ่มไว้แล้วรวมถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนของการอบรมด้านเทคนิค ความรู้และการตรวจสอบอื่นๆ อีกด้วย ส่วนผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในการจัดทำเขตการค้าเสรี หรือ FTA นั้นทางเอสจีเอสได้รับผลกระทบทางบวกโดยเฉพาะด้านการส่งออกและการนำเข้าสินค้าทางการเกษตร โดยเอสจีเอสมีแผนการที่จะพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานในการให้บริการให้ดีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและความพอใจของลูกค้า”
ถึงแม้ว่าการส่งออกสินค้าเกษตรจำพวกข้าว น้ำตาล และมันสัมประหลังลดลงถึงร้อยละ 25 จากปี 2547 เนื่องจากภัยแล้งส่งผลให้การผลิตน้ำตาล มันสำประหลัง และข้าวมีจำนวนน้อยลง แต่เอสจีเอสมีแนวทางแก้ไขโดยการเพิ่มส่วนครองตลาดให้มากขึ้น และหาตลาดอื่นมาทดแทนอย่างเช่น การตรวจสอบถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง ข้าวโพด กาแฟ ยางพารา น้ำมันพืช ข้าวสาลี ปลาป่นรวมไปถึงไบโอฟอสสัดส่วนการครองตลาดของเอสจีเอสในปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณร้อยละ 25 ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 และปี 2549 จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15
คุณรชตนันท์กล่าวว่า “เนื่องจากการส่งออกสินค้าเกษตรที่ลดลง บริษัทมีแผนที่จะเข้าดำเนินธุรกิจตรวจสอบสินค้าเกษตรในโครงการรับจำนำข้าวมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ให้กับบริษัท การปล่อยสต็อกข้าว 5.4 แสนตันของรัฐบาลถือเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้ตลาดมีซัพพลายเพิ่มขึ้น เพราะโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจะช่วยประคับประคองราคา เพื่อช่วยให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาดีขึ้น แต่อาจจะต้องปรับปรุงในด้านต่างๆ เช่น การนำมาตราการที่เหมาะสมเข้ามาควบคุมการดำเนินงาน เพื่อให้ข้าวที่รับจำนำมีคุณภาพตามที่กำหนด และต้องเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ข้าวเสื่อมคุณภาพเร็วเกินไป นอกจากนี้ทางรัฐบาลอาจจะต้องคอยดูแลว่าช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมในการขายข้าวสู่ท้องตลาด เรามีส่วนร่วมกับภาครัฐบาลในเรื่องของการตรวจสอบสินค้าเกษตร เช่น การตรวจสอบข้าวในโครงการรับจำนำข้าว อีกทั้งยังช่วยทำการตรวจสอบข้าวในโกดังข้าวตลอดจนการกำจัดแมลงในข้าวที่อยู่ในโครงการ”
การบริการด้านสินค้าเกษตรของเอสจีเอส
แผนกสินค้าเกษตรให้บริการตรวจสอบผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลกมากกว่าล้านตันต่อปี การบริการครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสอบสินค้าตามมาตรฐานเช่น การตรวจสิบน้ำหนัก การตรวจสอบปริมาณ และจำนวน สุ่มตัวอย่าง วิเคราะห์ การควบคุมการขนถ่ายสินค้า และการรมยา จนถึงการให้บริการตามความต้องการของลูกค้า เช่น รับประกันน้ำหนัก คุณภาพ และตรวจ GMOs ปรัชญาของเอสจีเอสคือการบริการที่ผสมผสานความสามารถกับประสบการณ์เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดกับลูกค้า ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คำแนะนำที่มีคุณภาพแล้ว เอสจีเอสยังเป็นคู่ค้าร่วมที่แบ่งปันความเสี่ยงอีกด้วย โดยมีเครือข่ายที่ให้ความช่วยเหลือทั่วโลกพร้อมผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีใหม่เข้ามารองรับการบริการ เช่น E-certificate จะช่วยให้การส่งเอกสารเร็วขึ้นพร้อมมีห้องปฎิบัติการในการรับรองการตรวจสอบ 24 ชั่วโมงที่บริการด้วยความซื่อสัตย์และเป็นกลาง
เกี่ยวกับเอสจีเอส
กลุ่มบริษัทเอสจีเอส เป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่มีนวัตกรรมทันสมัยในการให้บริการด้านการตรวจสอบ การทดสอบ และการรับรองระบบ บริษัทเอสจีเอส ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พศ. 2421 และได้รับการยอมรับว่าเป็นบรรทัดฐานระดับสากลในด้านคุณภาพและความซื่อสัตย์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 42,000 คน บริษัทเอสจีเอส ได้ขยายเครือข่ายสำนักงานและห้องปกิบัติการกว่า 1,000 แห่งทั่วโลก--จบ--