กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
ตามที่ กองเรือภาคที่ ๓ กองเรือยุทธการ ได้สั่งการให้เรือตรวจการณ์ ต.๙๗ ทำการตรวจสอบและจับกุมเรือประมงอินโดนีเซีย จำนวน ๔ ลำ พร้อมลูกเรือ ๒๒ คน ที่รุกล้ำน่านน้ำในพื้นที่ จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ นั้น พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า เรือประมงทั้ง ๔ ลำ ถูกจับขณะที่นำเรือเข้ามาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย ซึ่งกองทัพเรือมีสิทธิในการดูแล และทางกองเรือภาคที่ ๓ กองเรือยุทธการ ก็เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ ซึ่งจากการปฏิบัติ ที่ผ่านมา กองทัพเรือได้พยายามสกัดกั้นแรงงานเถื่อนหรือการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเรือประมงอินโดนีเซีย ทั้ง ๔ ลำ ที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าลูกเรือทั้ง ๒๒ คน เป็นชาวอาเจะห์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และจากการตรวจค้นไม่พบอาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามการลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย เป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสิทธิ การประมงไทย ซึ่งในขณะนี้ กองทัพเรือได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทำการสอบสวน ต่อข้อถามที่ว่า ชาวอาเจะห์ทั้ง ๒๒ คน นี้อาจจะแฝงตัวมาเพื่อก่อความไม่สงบในพื้นที่หรือไม่นั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่าขณะนี้มีกระแสข่าวว่าจะมีการลักลอบนำคนเข้ามาปฏิบัติการก่อการร้าย ดังนั้นการตรวจพบชาวอาเจะห์ลักลอบเข้ามาในน่านน้ำไทยก็เป็นสิ่งที่น่าสงสัย ซึ่งคงต้องรอผลการตรวจสอบก่อนและคาดว่าจะทราบผลในเร็ว ๆ นี้
(ที่มา: ร.อ.ยุทธเศรษฐ วังกานนท์ โทร.๕๕๗๓๓)--จบ--