กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--Brand Wealth
สยามเวลเนสกรุ๊ป ขานรับ AEC เตรียมเป็นสปารายแรก ที่จะเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) รุกหนักขยายธุรกิจปูพรมเปิดสาขาใหม่ตามแหล่งท่องเที่ยว รองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติ เผยกลยุทธ์จับตลาดระดับสูง มาร์จิ้นสูง และคู่แข่งน้อย
นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้ประกอบการสปาชั้นนำครบวงจร บริหารงานโดยผู้บริหารคนไทยได้รับการยอบรับอย่างสูงในระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทสยามเวลเนสกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ SPA เป็น 1 ในผู้ให้บริการสปาชั้นนำที่มีมาตรฐานครบวงจรที่สุดในประเทศไทยที่เปิดบริการมากว่า 15 ปี บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างมีเป้าหมายและมีกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างชัดเจน ปัจจุบันบริษัทเปิดให้บริการสปาภายใต้ 2 แบรนด์ คือ ระรินจินดา เวลเนสสปา สปาระดับ 5 ดาว และ Let’s Relax SPA สปาระดับ 4 ดาว รวมถึงโรงแรมระรินจินดา เวลเนสสปา รีสอร์ท ซึ่งเป็นบูติคโฮเทลที่ได้รับรางวัลระดับสากล เพื่อตอกย้ำการผู้นำในธุรกิจสปา บริษัทได้ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยได้เปิดบริษัทย่อย คือ บริษัท สยามเวลเนสแล็บ จำกัด ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาคุณภาพภาพสูง ทั้งในประเทศและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า Blooming และโรงเรียนสอนนวดไทยบลูมมิ่ง เพื่อพัฒนาบุคลากรของบริษัทและสร้างบุคลากรมืออาชีพให้กับธุรกิจสปาทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความต้องการอย่างสูง
สำหรับผลประกอบการที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 มีรายได้รวม 326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากปี 2555 ที่มีรายได้รวม 248 ล้านบาท และ เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มีรายได้รวม 211 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 55% ภายใน 3 ปี ขณะเดียวกันบริษัทมีกำไรสุทธิ ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกำไรสุทธิ 17 ล้านบาทในปี 2554 เป็นกำไรสุทธิ 49 ล้านบาทในปี 2555 และเป็นกำไรสุทธิ 55 ล้านบาทในปี 2556 คิดเป็นการเติบโต 244% ภายใน 3 ปี โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 32% ในปี 2555 และ 41% ในปี 2556 และมีอัตรากำไรสุทธิสูง (Net Margin) 20% ในปี 2555 และ 17% ในปี 2556
นายประเสริฐ จิราวรรณสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “เราเล็งเห็นการเติบโตของธุรกิจ สปาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง จากการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะทำให้ปริมาณของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก อีกทั้งไทยยังเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในธุรกิจสปาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ธุรกิจสปาในประเทศจะเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำทางธุรกิจ ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านสปาครบวงจร และมีประสบการณ์ตรงในธุรกิจสปามากว่า 15 ปี เราได้พัฒนาการบริการของ สยามเวลเนสกรุ๊ป เพื่อมาสร้างความต่างมีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยบูรณาการหลักวิชาการบำบัดที่ประยุกต์มาจากภูมิปัญญาไทย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายอาทิ World Luxury Hotels Awards, Thailand Tourism Award, Asia Wellness & Spa Gold Awards” นายประเสริฐ กล่าว
เพื่อการขยายธุรกิจเเละการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปีพ.ศ. 2558 ซึ่งจะมีปริมาณนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจชาวต่างชาติ เดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านคน บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นหลายแห่งตามเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย โดยจะเปิดสาขาเพิ่มประมาณปีละ 2-4 แห่ง จึงวางแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 142.5 ล้านบาท และเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยมีบริษัทหลักทรัพย์โกลเบ็กซ์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการทำธุรกิจที่มีการขยายตัว โดยจะนำเงินจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนหรือ IPO เพื่อเพิ่มจำนวนสาขา ชำระหนี้ และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งจะส่ง ผลให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น และมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในระยะยาวภายใต้การบริหารจัดการ รวมถึงการบริการอย่างมีประสิทธิภาพ