กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--กระทรวงพลังงาน
นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การทำโครงการไบโอดีเซลอยู่ในแผนระยะยาวของการพัฒนาพลังงานของประเทศ ซึ่งมีแผนที่จะดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรมอยู่แล้ว แต่จะมีการเร่งทำโครงการขึ้นมาเพื่อสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะมีการเสนอแผนให้คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายใน 2 สัปดาห์ ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาเสร็จก็จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติเป็นแผนการดำเนินงานต่อไป
กระทรวงพลังงานจะเร่งผลักดันโครงการไบโอดีเซล โดยได้มอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ. ไปศึกษาแนวทางการปลูกปาล์มน้ำมัน สบู่ดำ และพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่นที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบได้ รวมทั้งการนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาผลิตด้วย แต่การปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อให้ได้ผลจะต้องใช้เวลา 4-5 ปี หากมีความต้องการใช้อย่างเร่งด่วนจะต้องศึกษาแนวทางการนำเข้าปาล์มน้ำมันดิบ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซล โดยเอกชนที่สนใจลงทุนจะเป็นผู้พิจารณาปริมาณการนำเข้า และเม็ดเงินลงทุน ส่วนกระทรวงพลังงานจะดูแลเรื่องมาตรการภาษีและแนวทางการดำเนินงานด้านกฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกระทรวงพลังงานยังได้มอบหมายให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศึกษาแนวทางการผลิตไบโอดีเซล ตั้งแต่ บี 5 บี 10 และบี 100 หรือ การเติมน้ำมันที่สกัดจากพืชผลทางการเกษตรในน้ำมันดีเซลในสัดส่วน ร้อยละ 5 ,10 และน้ำมันจากพืชผลทางการเกษตรทั้งหมด เพื่อสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยอาจให้ ปตท. ตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อดูแลในเรื่องไบโอดีเซลและพลังงานทดแทนโดยเฉพาะบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)ก็มีแผนที่จะตั้งโรงงานสกัดน้ำมันไบโอดีเซล ที่ จ. อยุธยา ด้วยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร เนื่องจากสถานที่ตั้งเป็นพื้นที่ไม่สามารถตั้งโรงงานอุตสาหกรรมได้ กระทรวงพลังงานจึงได้ทำหนังสือเพื่อขออนุมัติในการจัดตั้งหากจะมีการสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซลอย่างจริงจัง จะต้องมีการหารือในเรื่องพื้นที่การปลูกปาล์มน้ำมันกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเรื่องอัตราภาษีกับกระทรวงการคลัง โดยมองว่าหากจะมีการส่งเสริมการใช้อย่างจริงจังจะต้องจัดปาล์มน้ำมันเป็นสินค้าการเกษตรเพื่อไม่ต้องจ่ายภาษีอากรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน
ในเบื้องต้น กระทรวงพลังงานจะเร่งผลักดันไบโอดีเซลชุมชน โดยใช้สบู่ดำเป็นวัตถุดิบก่อนซึ่งจะได้ผลผลิตภายในเวลา 9 เดือน ซึ่งเร็วกว่าการปลูกปาล์มน้ำมันหากมีประชาชนสนใจในการใช้ไบโอดีเซลจำนวนมากเช่นเดียวกับแก๊สโซฮอล์ก็อาจจะมีการรณรงค์ส่งเสริมเพื่อเพิ่มปริมาณการใช้เช่นเดียวกับโครงการแก๊สโซฮอล์ที่ผ่านมา และหากมีปริมาณมากเพียงพอที่จะทดแทนน้ำมันดีเซลก็อาจจะมีการยกเลิกการใช้น้ำมันดีเซลก็ได้--จบ--