ทอท. มั่นใจ ปีนี้กำไรไม่ต่ำกว่าปีก่อน เน้นการบริหารองค์กรแบบยั่งยืน มั่นใจโครงการต่างๆโปร่งใส ตรวจสอบได้

ข่าวท่องเที่ยว Monday June 23, 2014 14:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น ทอท. คาดการณ์กำไรไม่รวมรายการพิเศษของปีนี้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน เน้นบริหารองค์กรแบบยั่งยืน และวางแนวทางการทำงานอย่างเป็นระบบ รักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่อง มั่นใจโครงการต่างๆผ่านการศึกษาเป็นอย่างดีมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และจะเดินหน้าดำเนินการได้ต่อเนื่อง ด้านนักวิเคราะห์มอง AOT โอกาสเติบโตสูง เหตุปัจจัยกระทบระยะสั้น และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวในในไตรมาส 4 นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOTเปิดเผยว่าปัจจุบันภาพรวมของอุตสาหกรรมโดยรวมยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของผู้โดยสารเฉลี่ยของท่าอากาศยานทั่วโลกอยู่ที่ 4.5-5% ขณะที่เอเชียแปซิฟิค เติบโตประมาณ 6.5% สำหรับประเทศไทยในปีนี้คาดว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารประมาณ 2-3% เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ “ทอท. พยายามพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับองค์กร มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง รองรับการเติบโตในอนาคต โดยเน้นการพัฒนายุทธศาสตร์และกลยุทธ์ รวมไปถึงการเดินหน้าบริหารองค์กรให้เป็นไปตามแนวคิดการบริหารองค์กรแบบยั่งยืนโดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีความรู้ความสามารถ ตลอดจนมีการวางกลยุทธ์ที่ดีให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศโดยมีการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ ทอท. สะท้อนออกมาเป็นผลการดำเนินงานที่มีอัตราการเติบโตในระดับที่ดีและต่อเนื่องแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์หรือได้รับปัจจัยอื่นๆมากระทบก็ตาม” นายเมฆินทร์ กล่าว ทั้งนี้ ทอท.คาดว่าปีนี้จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไร (ไม่รวมรายการพิเศษ) ได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่มีกำไร(ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่ 9,952.28 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ก็นับว่ามีผลประกอบการที่ดีและอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากปีนี้ มีสถานการณ์การเมืองมากระทบ แต่ ทอท.ได้มีการดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้อย่างเป็นระบบทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก โดยใช้กลยุทธ์การใช้เม็ดเงินอย่างคุ้มค่า และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างเข้มงวด รวมทั้งมีการเพิ่มรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aero) มาชดเชยรายได้ที่ลดลงในปีนี้ ประกอบกับ การเติบโตของจำนวนเที่ยวบินของสายการบินต้นทุนต่ำ (low-cost airline) ที่เพิ่มขึ้น 15% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา “หลังจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมืองมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน เมื่อ คสช. เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความมั่นใจที่จะเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น และที่สำคัญขณะนี้ได้มีการยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ทอท. จึงเชื่อมั่นว่าจำนวนผู้โดยสารจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญขณะเดียวกัน ทอท. ได้ร่วมมือกับธุรกิจท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อกระตุ้นให้มีผู้โดยสารเดินทางมายังประเทศมากขึ้น รวมทั้งมีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศเพื่อให้เข้าใจในสถานการณ์ในประเทศไทยที่มีความปลอดภัยสูง” นายเมฆินทร์ กล่าว สำหรับประเด็นเรื่องการตรวจสอบโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่สอง ของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น นายเมฆินทร์กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติที่ คสช. จะให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณในการลงทุนสูง ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสและแสดงให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ทางทอท. ยินดีให้ความร่วมมือกับ คสช. ในการตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้ ทอท.ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้และมีการตรวจสอบจากภายในเป็นอย่างดี รวมไปถึงผ่านขั้นตอนในการขออนุมัติโครงการตามแนวทางของรัฐวิสาหกิจแล้ว หาก คสช. ตรวจสอบและเห็นชอบกับโครงการดังกล่าว ก็สามารถเดินหน้าดำเนินการต่อได้ทันที ส่วนโครงการอื่นๆที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ทอท. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการขยายพื้นที่ให้บริการผู้โดยสารในสนามบินดอนเมืองระยะที่ 2 เพื่อให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 30 ล้านคนต่อปีซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2557 และการขยายท่าอากาศยานภูเก็ตให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 12 ล้านคนต่อปีซึ่งคาดว่าจะเสร็จในปี 2558 หลังจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมืองมาเป็นระยะเวลานานหลายเดือน ปัจจุบันพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยในไทย และที่สำคัญขณะนี้ได้มีการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ ดังนั้น เชื่อแน่ว่าจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมายังประเทศไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการบินที่มีศักยภาพรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับการเดินทาง และทาง ทอท. ได้มีการร่วมมือกับองค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวเช่นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการกระตุ้นให้เดินทางในประเทศให้มากขึ้น ประกอบกับการสื่อสารกับต่างประเทศถึงสถานการณ์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น “ทอท. นับเป็นองค์กรที่เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนระบบ โลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศการดำเนินงานหรือการลงทุนในแต่ละครั้งต้องเกิดประโยชน์สูงสุด มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และรอบคอบ รวมถึงมองเหตุการณ์ในอนาคตเป็นสำคัญ ซึ่งผู้บริหารและพนักงานเองก็มีความรู้ ความเชี่ยวชาญที่จะช่วยบริหารในส่วนต่างๆให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ สามารถแข่งขันกับท่าอากาศยานอื่นๆ ในระดับสากลได้ ตลอดจนผลตอบแทนที่จะเกิดต่อองค์กร และผู้ถือหุ้นมากที่สุด” นายเมฆินทร์ กล่าว ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า การยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศจะส่งผลดีต่อกลุ่มการท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทอท. จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด แม้จะคาดว่าจำนวนผู้โดยสารของ ทอท. จะเติบโตติดลบ y-y เล็กน้อยในเดือนพ.ค.และติดลบในระดับตัวเลขสองหลักในมิ.ย.จากผลกระทบจากการรัฐประหารในปลายเดือนมิ.ย.โดยในช่วงตั้งแต่ ต.ค.2013-เม.ย.2014 ทอท.รายงานตัวเลขผู้โดยสารเติบโต 4.9% แต่มองว่าผลกระทบนี้จะเป็นปัจจัยระยะสั้นและคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ทั้งนี้ คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารของ ทอท. จะเติบโต 5.4% ใน FY14และ 9.3% ในFY15 ขณะที่ปัจจัยบวกนอกจากที่คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะมีการฟื้นตัวอย่างเร็วแล้ว ยังคาดว่าการเปิดอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะเพิ่มโอกาสไม่เพียงแต่ทำให้ ทอท.มีความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นแต่รวมถึงพื้นที่กิจกรรมพาณิชย์ที่สูงขึ้นด้วยดังนั้น จึงมั่นใจกับความแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยและจากการที่การเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ในหลายสมมติฐาน คาดว่ากำไรของ ทอท.จะยังสามารถเติบโตได้ที่ 8.2% y-y จากอัตราภาษีที่ลดลง ส่วนแบ่งรายได้จากคิงเพาเวอร์ที่สูงขึ้นและจากจำนวนการขึ้นลงของเครื่องบินที่มากขึ้นแม้จำนวนผู้โดยสารในปีนี้อาจจะไม่มีการเติบโตเลยก็ตาม
แท็ก AOT  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ