กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--ไซเคิล คัลเจอร์โชว์
12 ค่ายรถบิ๊กไบค์ ร้านค้าอุปกรณ์ตกแต่งและเสื้อผ้า ขานรับพร้อมร่วม “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2014 หรือ BMF 2014” ชูธง เทศกาลราคาพิเศษแห่งปี ต่างระดมรถเด่นพร้อมเปิดรถรุ่นใหม่ อัดแคมเปญเด็ดลดแลกแจกแถม-ปลอดดอกไร้ดาวน์ หวังคืนความสุขให้คนรักมอเตอร์ไซค์ และกระตุ้นยอดขายช่วงกลางปี คาด 5 วันที่จัดงาน 2-6 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) มีผู้ชมงานกว่า 1.3 ล้านคน มียอดเงินสะพัดราว 300ล้านบาท
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเคิล คัลเจอร์โชว์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานเทศกาลเพื่อคนที่หลงใหลรถจักรยานยนต์ “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล2014” (Bangkok Motorbike Festival 2014) หรือ “BMF 2014” จัดระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2557 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) จัดภายใต้คอนเซ็ปต์ "Ride & Freedom" หรืออิสระแห่งการขับขี่” ถือเป็นเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีค่ายรถจักยานยนต์ชั้นนำทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชียที่มีอยู่เกือบทุกแบรนด์ในเมืองไทย นำรถหลากหลายรุ่นมาร่วมออกงานและเปิดจำหน่าย อาทิ HONDA BIGWING, INDIAN, KAWASAKI, KTM, LIFAN, LML, RYUKA, STALLIONS, SUZUKI, YAMAHA, VICTORY, ZERO ENGINEERING ร่วมทั้งผู้ประกอบการอุปกรณ์เสื้อผ้าและของตกแต่ง ตอบรับเข้าร่วมงานมากมาย พร้อมทั้งนำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงาน
“เราตั้งใจจะจัดงานบางกอกมอเตอร์ไบค์ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่ได้ลองจัดงาน Mid Year Meeting แต่จัดเพียงวันเดียว ใช้พื้นที่ด้านนอกของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ไม่ได้เน้นการขายมากนัก เน้นให้คนรักมอเตอร์ไซค์มาร่วมสังสรรค์เป็นหลัก มาครั้งนี้ใช้งบลงทุนในการบริหารพื้นที่กว่า 10 ล้านบาท ใช้คอนเซ็ปต์ Mid Year Meeting แบบปีที่แล้วแต่ครั้งนี้จัดแบบเต็มรูปแบบ พร้อมกับโปรโมชั่นราคาพิเศษที่มีเฉพาะช่วงกลางปีเท่านั้น โดยตั้งใจจะทำให้ตัวงานมีความยิ่งใหญ่เท่ากับงานแบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ ที่จัดต้นปี โดยใช้พื้นที่จัดงานกว่า 10,000 ตารางเมตร ครอบคลุมทั้งภายในและด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) โดยที่ผ่านมามีค่ายรถบิ๊กไบค์และผู้ประกอบการหลายรายติดต่อขอเข้าร่วมงานเพิ่มเติม แต่เราไม่สามารถจัดสรรพื้นที่ให้ได้ สำหรับครั้งนี้มีค่ายรถมาร่วมงาน 11 ค่าย มีผู้ประกอบการร้านค้าอุปกรณ์ของแต่งและเสื้อผ้ามากกว่า 30 บู๊ธ”
ความพิเศษของการจัดงานในครั้งนี้ นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวต่อว่า ทุกฝ่ายที่เข้ามาร่วมงานต่างมีความตั้งใจจะทำให้การจัดงานครั้งนี้เป็น “เทศกาลลดราคาและการซื้อ-ขายแห่งปี” โดยค่ายรถและผู้ประกอบการจะนำสินค้าใหม่และสินค้าที่กำลังจะเปลี่ยนรุ่นมาจำหน่ายราคาพิเศษ ขณะที่คนรักมอเตอร์ไซค์จะได้เลือกซื้อสินค้าราคาที่พิเศษที่สุดในรอบปี หลังจากรอคอยมานาน และพลาดจากงานต้นปีที่ระงับไป เนื่องจากเหตุชุมนุมทางการเมือง
“ทุกคนมองในทิศทางเดียวกันว่า กลางปีเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ฉะนั้น จะใช้โอกาสนี้ทำให้เป็นมหกรรมแห่งการซื้อ-ขายแห่งปี ที่ผู้ประกอบการจะมาร่วมล้างสต็อกสินค้า ทั้งการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ บางค่ายรถจัดแคมเปญแรง เช่น ปลอดดอก-ไร้ดาว์น-ผ่อนนาน มอบส่วนลดพิเศษและของแถมพรีเมียม ผมมองว่าเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่จะได้ซื้อสินค้าคุณภาพในราคาที่พิเศษกว่าช่วงปกติ เป็นการคืนความสุขให้กับคนรักมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการมอเตอร์ไซค์ที่มีงาน Mid Year Sale และจากที่ประเมินภาพรวมตลาด รถบิ๊กไบค์ขนาดกลางเครื่องยนต์ 250-650 ซี.ซี. จะเป็นรถที่ได้รับการตอบรับสูงจากผู้ใช้ โดยเฉพาะรถ 250-500 ซี.ซี. เริ่มเป็นที่สนใจ มีคนใช้มากขึ้น ซึ่งเกิดจากผู้ขับขี่ยกระดับตนเอง จากที่เคยขับรถขนาดเล็กก็เปลี่ยนมาใช้รถใหญ่ขึ้น เพื่อนำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน อีกทั้งราคาลดลงจากเดิมมาก ทำให้ผู้บริโภคสามารถครอบครองได้ง่ายขึ้น คาดว่าจะมียอดจองรถประมาณ 1,200 คัน มีเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายรถกว่า 200 ล้านบาท ที่เหลือเป็นยอดขายอุปกรณ์ของแต่งและเสื้อผ้า มีผู้เข้าชมงานราว 1.3 ล้านคน”
จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถบิ๊กไบค์เมืองไทยที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้รถบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่เครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,000 ซี.ซี.ขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มรถพรีเมียมจนถึงไฮเอนด์ เติบโตตามไปด้วย แม้จะมีปริมาณไม่มากนัก แต่สะท้อนให้เห็นว่าช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองและเศรษฐกิจชะลอตัว รถบิ๊กไบค์กลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบ ผิดกับกลุ่มรถเล็กและรถบิ๊กไบค์ขนาดกลาง เนื่องจากพฤติกรรมการใช้รถบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่ จะเป็นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตผู้บริโภคที่มีฐานะการเงินดี ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงมีแผนจะขยายการจัดงานในลักษณะเดียวกันนี้ออกไปสู่ภูมิภาคของประเทศในอนาคตอันใกล้ ซึ่งกำลังศึกษาและประสานความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ อีกทั้งเพื่อรองรับการเปิดเขตเศรษฐกิจการค้าเสรีอาเซียน (AEC) ในปี 2558
“การเกิด AEC เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าใครมีศักยภาพสูงสามารถขยายธุรกิจไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เงื่อนไขของเขตการค้า AFTA หรือ AEC โดยผู้ที่รับประโยชน์สูงสุดคือ ผู้ใช้รถจะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้หลากหลายขึ้น ส่วนการแข่งขันรถบิ๊กไบค์ในตลาดช่วงครึ่งปีหลัง ยังไม่มีอะไรหวือหวามากนัก แต่ถ้าเป็นปีหน้าการแข่งจะดุเดือดขึ้น เนื่องจากมีหลายค่ายรถเข้ามาเปิดโรงงานผลิตในไทย ทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถครอบครองรถได้ง่ายขึ้นจากราคาที่ถูกลงกว่าช่วงที่ผ่านมา”
สำหรับความน่าสนใจภายในงาน นอกจากจะได้พบกับรถบิ๊กไบค์หลากหลายแบรนด์และอุปกรณ์เสื้อผ้าของตกแต่งรถมากมายแล้ว ยังมีรถไฮไลท์มาร่วมสร้างสีสันในกับงานอีกด้วย อาทิ Yamaha-SR400 265,000 บาท KTM-1290 Super Duke R 1.38 ล้านบาท MV Agusta-F4RR 1.899 ล้านบาท Indian Chieftain 1.695 ล้าน
ภายในงานนอกจากจะมีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นยอดนิยมหลากหลายแบรนด์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถรวมถึงเสื้อผ้า ให้ชมและจับจองในราคาพิเศษแล้ว ยังจะได้เพลิดเพลินไปกับความบันเทิงสำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์มากมาย แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2014 (Bangkok Motorbike Festival 2014) จัดระหว่าง 2-6 กรกฎาคม 2557 เปิดให้ชมฟรีตลอดงาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์)