SAPPE เข้าซื้อขายกระดาน SET วันแรก หลังนักลงทุนตอบรับคึกคัก ผู้บริหารมั่นใจหุ้นยืนเหนือจอง ชี้พื้นฐานบริษัทแข็งแกร่ง รับเทรนด์อุตสาหกรรมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามทั่วโลกขยายตัวได้ดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 25, 2014 11:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ หุ้น ‘บมจ.เซ็ปเป้’ หรือ ‘SAPPE’ มั่นใจราคาเปิดวันแรกสูงกว่าราคา IPO ที่ 13.50 บาท เชื่อนักลงทุนตอบรับคึกคัก หลังช่วงเปิดจองหุ้นกระแสตอบรับดีเยี่ยม ระบุปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งหนุนผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น พร้อมลุยขยายตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามในตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง คาดนักลงทุนที่พลาดหวังจากการจองหุ้นตามเก็บในกระดานหวังลงทุนระยะยาว ด้าน แอดไวเซอรี่ พลัส ที่ปรึกษาทางการเงิน มั่นใจหุ้น SAPPE จะประสบความสำเร็จในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ เหตุนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐาน ฐานะทางเงินแกร่ง ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ผู้สร้างสรรค์เครื่องดื่มระดับโลก ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และเครื่องดื่มที่มุ่งเน้นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและความงามให้แก่ผู้บริโภค เปิดเผยว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ราคาเปิดซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในการเข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 25 มิถุนายน 2557 ภายใต้ชื่อย่อการซื้อขาย ‘SAPPE’ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยคาดว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือจองได้จากราคา IPO ที่ 13.50 บาท เนื่องจากบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งด้านขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามทั้งในประเทศและตลาดโลก จากการดำเนินนโยบายสร้างสรรค์แบรนด์ ‘เซ็ปเป้’ และแบรนด์อื่น ไปสู่การเป็นเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความแปลกใหม่ในด้านนวัตกรรมให้แก่วงการเครื่องดื่มทั้งด้านรสชาติสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ภายใต้กระบวนการผลิต การวิจัย ช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย เพื่อรุกทำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพทั้งในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายยัง 50 ประเทศทั่วโลก โดยจำหน่ายผ่านคู่ค้า ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนนำเข้า ปัจจุบัน สินค้าของเซ็ปเป้ มีด้วยกัน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักภายใต้ 13 แบรนด์ ที่จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ภายใต้แบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ , เซ็ปเป้ บิวติ ชอท และเซนต์แอนนา 2.ผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำผลไม้ / เครื่องดื่มแต่งกลิ่นผลไม้ ได้แก่ เซ็ปเป้ ฟอร์ วัน เดย์ น้ำผักผลไม้เข้มข้น 100%, โมกุ โมกุ น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว, ชิววี่ และ โคโค่ แครช เครื่องดื่มแต่งกลิ่นผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว และเซ็ปเป้ อโล เวร่า ดริ้งค์ น้ำว่านหางจระเข้กลิ่นผลไม้ผสมชิ้นว่านหางจระเข้ 3.ผลิตภัณฑ์ประเภทผงพร้อมชง เพื่อสุขภาพและความงาม แบรนด์ เพรียว คอฟฟี่, สวิสส์ การ์เดน คอฟฟี่ และสลิมฟิต คอฟฟี่ โดยเป็น กาแฟควบคุมน้ำหนักเพื่อสุขภาพและความงาม และเพรียว คลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นคลอโรฟิลล์ผงที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่ช่วยดีท็อกซ์ขับล้างสารพิษ และ 4.ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มปรุงสำเร็จพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ได้แก่ เพรียว คอฟฟี่ แบบกระป๋อง ที่ทุกแบรนด์ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค โดยมีแบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นเบอร์ 1 ของตลาดฟังก์ชันนัลดริ้งค์สำหรับผู้หญิงในประเทศไทย และน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ ‘โมกุ โมกุ’ ที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับ “เรามีศักยภาพและความพร้อมรุกแข่งขันธุรกิจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเรามีเป้าหมายที่ต้องการสร้างแบรนด์ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดโลก ด้วยการพัฒนานวัตกรรมสินค้า บรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยมีความโดดเด่น ภายใต้นโยบายสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งเชื่อว่าแนวทางดังล่าวจะทำให้เราเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต” นายอดิศักดิ์ กล่าว ด้านนายประเสริฐ ภัทรดิลก กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทแอดไวเซอรี่ พลัส จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ที่บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการขาย 774 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 302.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายรวม 471.21 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 449% เมื่อเทียบงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.60 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากยอดขายจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง มีผลต่อความสามารถทำกำไรที่ดี และสามารถประหยัดต่อขนาด หรือ Economy of Scale จากการผลิตจำนวนมากตามยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า จากความสำเร็จของหุ้น SAPPE ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันที่จองหุ้นล้นถึง 18 เท่า ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้จองซื้อหุ้น เนื่องจาก นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจของ SAPPE ที่สามารถผลักดันผลการดำเนินงานในแง่ของยอดขายและกำไรให้เติบโตได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้ ราคา IPO มีส่วนลดในระดับ 42.1% ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนและสนใจซื้อหุ้น โดยราคาดังกล่าวคิดเป็น P/E เพียง 15.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มเดียวกันที่ 27.5 เท่า จึงคาดว่า หุ้น SAPPE จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และถือว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง น่าลงทุน โดยคาดว่านักลงทุนจำนวนมากที่พลาดจากการจองซื้อหุ้น IPO จะเข้ามาเก็บหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อหวังลงทุนในระยะยาวต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ