กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายมนัส แจ่มเวหา เปิดเผยในฐานะกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)ซึ่งได้มีการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2557เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2557 เพิ่มขึ้นจาก ปี2556 อย่างมากทำให้เกิดการจำหน่ายผลไม้ออกสู่ตลาดกระจุกตัวสูงมากในช่วงเดือนมิถุนายน2557 โดยเฉพาะอย่างยิ่งมังคุดและเงาะส่งผลให้เกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ ซึ่งคณะกรรมการฯ คชก.มีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออกปี 2557 โดยอนุมัติวงเงิน 50.93 ล้านบาทจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือในด้านการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตและการส่งเสริมการแปรรูป เริ่มต้นระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 21 มิถุนายน2557 – 31 ธันวาคม 2558
นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวเพิ่มเติมว่ากรมบัญชีกลาง ในฐานะที่ทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินและการบัญชีของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ดำเนินการสั่งจ่ายเงินกองทุนฯเข้าบัญชีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 50.93 ล้านบาทเรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2557 ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อผลไม้และค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อนำไปแปรรูป จำนวน 2.80 ล้านบาท และอีกจำนวน 48.13 ล้านบาทจะจ่ายขาดเพื่อสนับสนุนเงินชดเชยค่าขนส่งและบริหารจัดการผลผลิตในการกระจายผลผลิตสู่ตลาดตลาดปลายทางนอกแหล่งผลิตวงเงิน 39.75 ล้านบาท เป็นเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 3 ต่อปีที่กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. เป็นเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายผลไม้วงเงิน 6.54 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายในการแปรรูปมังคุดและเงาะเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต วงเงิน0.45 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการติดตามและบริหารจัดการโครงการ วงเงิน1.39 ล้านบาท
“ทั้งนี้จำนวนเงินดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรสามารถมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการจำหน่ายผลผลิตได้ตลอดฤดูกาลรวมถึงสามารถแปรรูปสินค้าไว้จำหน่ายได้ตลอดไม่เกิดการสูญเสีย”นายมนัสกล่าว