กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--TerraBKK
ตามหา บ้านมือสอง - Terra's Advice
ซื้อบ้านไว้อยู่สักหลังไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ยิ่งเป็นบ้านมือสองด้วยแล้ว ไม่ได้ติดป้ายเปิดตัวรายวัน เหมือนโครงการใหม่ๆ ถ้าตกลงปลงใจจะมองหาสักหลัง จะไปหาได้ที่ไหน ต้องดูอะไร สังเกตอะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ยิ่งคิดข้อสงสัยยิ่งตามมามากมาย ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้มีอะไรซับซ้อนขนาดนั้น
แหล่งหาบ้านมือสอง ณ ปัจจุบันมีด้วยกัน 4 แหล่งหลักๆ คือ
1. ซื้อจากเจ้าของ
ข้อดี - สามารถขอข้อมูลและต่อรองราคาซื้อขายกันได้โดยสะดวกระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง
ข้อควรระวัง
- ควรสอบถามถึงสาเหตุการขายว่าเป็นปัจจัยทั่วไปส่วนบุคคล หรือเกิดจากสิ่งแวดล้อมของบ้าน
- การทำนิติกรรมสัญญาต้องจัดการเรื่องสัญญารวมถึงเอกสารต่างๆเองทั้งหมด ซึ่งหากไม่รอบคอบอาจเกิดข้อผิดพลาดจนเป็นปัญหาได้ในอนาคต
2. ซื้อผ่านนายหน้า(Agent)
ข้อดี – ซื้อขายได้สะดวกโดยมี “ตัวแทน” หรือ “คนกลาง” ทำหน้าที่แทบทุกอย่าง ตั้งแต่พาไปดูบ้าน เจรจาราคา จัดการสัญญาและช่วยทำธุรกรรมต่างๆ
ข้อควรระวัง
- ผู้ซื้อต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเจ้าของบ้านที่นายหน้าพาไปเจรจาด้วยนั้นคือเจ้าของบ้านตัวจริง
- ขอดูบัตรประชาชนตัวจริง ย้ำว่าตัวจริง ในวันทำสัญญา เทียบกับชื่อสลักหลังโฉนดว่าตรงกันแน่นอน จึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายต่อไป
3. ซื้อผ่านสถาบันการเงิน
ข้อดี – สินทรัพย์รอการขายของธนาคารมีให้เลือกมากมาย ราคาถูกกว่าท้องตลาด มีบริการสินเชื่อและข้อเสนอหลากหลายน่าสนใจ
ข้อควรระวัง
- เจ้าของบ้านอาจจะยังไม่ย้ายออก ซึ่งในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบที่ทางธนาคารต้องจัดการให้
- ควรซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งธนาคารเป็นเจ้าของโฉนดเรียบร้อยแล้ว
4. ประมูลจากกรมบังคับคดี
ข้อดี – ข้อได้เปรียบที่สุดของการซื้อวิธีนี้คือ “ราคาถูก” เพราะราคาเริ่มต้นของการประมูลอาจต่ำกว่าราคาตลาดถึงร้อยละ 50
ข้อควรระวัง
- ต้องสังเกตให้ดีว่า บ้านหลังนั้นไม่ได้มาพร้อมผู้อยู่อาศัยเดิม ซึ่งจะเป็นปัญหาเดียวกับการซื้อจากเอกชน คือต้องมาฟ้องขับไล่กันในภายหลัง
- หากได้บ้านมาในราคาที่ถูกเกินไป อาจถูก “ฟ้องคัดค้านราคา” ซึ่งกฎหมายให้สิทธิ์ลูกหนี้ฟ้องได้หนึ่งครั้ง
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.terrabkk.com