กรุงเทพ--26 เม.ย.--เบอร์ลี่ ยุคเกอร์
ตลาดเส้นผมแข่งดุ รูเบียฉวยโอกาสปล่อยไม้เด็ดหลังซุ่มดูตลาดมานาน ประเดิมไตรมาสที่ 2 ของปี ประกาศนำเสนอแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์พฤกษา 4 สี 3 ขนาด หวังชิงมาร์เก็ตแชร์ 5% ของตลาดบิ้วตี้เซ็กเม้นท์
คุณภาศวัฒน์ จินดารัตน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์นกแก้ว จากบริษัท รูเบีย อุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยถึงแผนงานด้านการตลาดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ว่า ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าในตระกูลนกแก้วเพิ่มอีก 2 ตัว คือแชมพูและครีมนวดพฤกษา และเหตุที่ทางบริษัทฯ เลือกออกสินค้าใหม่มาทำตลาดในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเพราะต้องการตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีความเชื่อถือที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าในแง่ชื่อเสียงและคุณสมบัติของสินค้า จนนกแก้วเป็นที่ชื่นชอบและยอมรับของคนไทยมานานกว่า 50 ปี และนอกจากนี้จะเห็นได้ว่ากระแสของคนไทย ที่มีต่อตัวสินค้าส่วนใหญ่ ได้เริ่มหันกลับมานิยมใช้ผลิตภัณฑ์ของไทยและขณะเดียวกันก็ยังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติมากขึ้นด้วย
และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นแรงผลักดัน ให้ทางบริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างแต่ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เพื่อออกมาขยายตลาดของผลิตภัณฑ์นกแก้วให้กว้างขึ้น ซึ่งจากปัจจุบันทางบริษัทฯ มีสินค้าในตระกูลนกแก้วจำหน่ายอยู่ในตลาด 4 ตัว คือนกแก้วคลาสสิค (สีเขียว) นกแก้วโกลด์ (สีม่วงและสีชมพู) นกแก้วเอ็กซ์ตร้ามายด์ (สีขาว) และล่าสุดได้วางตลาดแชมพูและครีมนวดมาทำตลาดเพิ่มอีก 2 ตัว แบ่งเป็นแชมพู 4 สี 3 ขนาดและครีมนวด 4 สี 3 ขนาดเช่นกัน โดยตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคถึง 4 กลุ่มคือ
1. กลุ่มผู้บริโภคที่มีผมแห้งเสีย ดัด ย้อมสี โดยแชมพูตัวนี้จะมีส่วนผสมสารสกัดจากผลมะกอก ช่วยซ่อมแซมเซลผมที่แห้งเสีย หรือผ่านการดัดย้อม ป้องกันการแตกปลาย ปกป้องเซลผมใหม่ให้แข็งแรง คืนความชุ่มชื่นมีชีวิตชีวาให้เส้นผม
2. ผู้ที่มีผมธรรมดา โดยแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ตัวนี้มีส่วนผสมสารสกัดจากดอกอัญชัน ที่ช่วยดูแลผมให้ดกดำ บำรุงเซลรากผมให้แข็งแรง ป้องกันไม่ให้กระด้างหรือแห้งเสียมีสุขภาพดี นุ่มสลวยเป็นประกายเงางาม
3. กลุ่มผู้บริโภคที่มีผมธรรมดาถึงมัน โดยแชมพูตัวนี้มีสารสักดจากผลมะคำดีควายช่วยป้องกันรังแค รักษาความชุ่มชื่นให้หนังศรีษะ ควบคุมสมดุลของน้ำมันในเส้นผม แม้ต้องสระบ่อยครั้ง จะยิ่งทำให้ผมสะอาดเบาสบาย มีชีวิตชีวา
4. แชมพูและครีมนวดผมพฤกษาสูตรส้มป่อย ที่เหมาะสมกลุ่มผู้บริโภคที่มีผมขาดน้ำหนัก จัดทรงยาก ทั้งนี้ เพราะแชมพูและครีมนวดตัวดังกล่าวมีสารสกัดจากฝักส้มบ่อย ที่ช่วยรักษาสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงของหนังศรีษะ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง สปริงตัวสวย มีน้ำหนัก จัดทรงง่าย
และนอกจากแชมพูและครีมนวดผมพฤกษานกแก้วจะเป็นสินค้าคุณภาพสูง เหมาะสำหรับผมคนไทยและสระได้บ่อยตามต้องการ โดยไม่ทำลายเส้นผมแล้ว สำหรับจุดเด่นของตัวแชมพูและครีมนวดที่เป็นสินค้าตัวใหม่ของไทยที่มีคุณภาพสูงมีจุดเด่นของตัวเอง และผลิตเพื่อเส้นผมของคนไทยโดยเฉพาะนี้เองที่ทำให้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถตีตลาดสู้กับคู่แข่งขันได้เป็นอย่างดี
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่แชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ต้องการเจาะคือผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 15-35 ปี ที่เป็นนักศึกษา กลุ่มคนวัยทำงานและครอบครัวใหม่ ที่อาศัยอยู่ในเมือง ทันสมัย คล่องตัวรับต่อกระแสนิยมไทยและมีความเชื่อถือในสารสกัดจากธรรมชาติของไทย สำหรับกลุ่มเป้าหมายทางบริษัทฯ สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกันคือ ผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ตรานกแก้วอยู่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มคนที่พิถีพิถันที่จะซื้อสินค้าส่วนตัวที่มีคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล และกลุ่มที่มีความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากสารธรรมชาติ ส่วนปริมาณและราคาทางบริษัทฯ มีให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ถึง 3 ขนาด คือแชมพูขนาด 100 มล. 200 มล. และ 400 มล. โดยมีราคาจำหน่ายที่ 25 บาท 50 บาท และ 90 บาทตามลำดับ ส่วนคอนดิชั่นเนอร์ก็มีให้เลือกถึง 3 ขนาด เช่นกัน คือขนาด 100 มล.ราคา 35 บาท 200 มล. ราคา 60 บาทและ ขนาด 400 มล. ราคา 100 บาท ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายในการวางตลาดทางบริษัทฯ จะวางจำหน่ายผ่านไปยังโมเดิร์นเทรด โดยจะแบ่งกทม. 60% และตจว. 40%
สำหรับตลาดแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ในปัจจุบัน มีตลาดบิ้วตี้เซ็กเม้นต์ครองส่วนแบ่งอยู่ 70% ตลาดแชมพูขจัดรังแค 15% ตลาดแชมพูทูอินวัน 5% และตลาดแชมพูเด็กอีก 5% จากมูลค่าตลาดรวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นตลาดแชมพู 9,300 ล้านบาทและคอนดิชั่นเนอร์ 2,700 ล้านบาท สำหรับในปีที่ผ่านมาตลาดแชมพูในกลุ่มบิ้วตี้มีซันซิลครองส่วนแบ่งอยู่ 24% แพนทีน 15% คลีนิค 8% รีจอย 7% ออร์แกนนิค 6% แคร์รอล เฮอร์เบิล เอ็สเซ็นส์ 5% ลักส์ 4% ลาวีนัส 3% และอื่น 28% ดังนั้นภายหลังจากจากการเปิดตลาดสินค้าตัวใหม่ ทางบริษัทฯ มั่นใจว่าตลาดแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ของนกแก้วจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ประมาณ 5% จากมูลค่าตลาดรวมกลุ่มบิ้วตี้ เซ็กเม้นต์
และเพื่อกระตุ้นให้ตัวสินค้าเป็นที่รู้จักและจดจำของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงประกาศทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท เพื่อเป็นสื่อกลางกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากทดลองใช้สินค้า ผ่านทางสื่อทีวี ซึ่งบริษัทฯ ถือว่าเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี โดยออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่มีแนวคิดแตกต่างจากโฆษณาแชมพูของคู่แข่งทั่วไปตรง เน้นความหอมและส่วนผสมจากพฤกษาไทย และนอกจากนี้ยังมีสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อส่งเสริมการขายอื่น ๆ อีกมากมาย--จบ--