กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--ซีพีเอฟ
บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มั่นใจยอดขายเติบโตแข็งแกร่งตามเป้าหมาย 15% ย้ำปัญหาแรงงานผิดกฏหมายเป็นผลกระทบทางอ้อมจะคลี่คลายเร็วที่สุด ยืนหยัดประณามการใช้แรงงานทาส
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำลังทำความเข้าใจกับคู่ค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายของบริษัทฯที่เกี่ยวกับแรงงานได้ประกาศชัดเจนว่าไม่สนับสนุนการใช้แรงงานผิดกฏหมายและแรงงานทาสบนเรือประมง ซึ่งขณะนี้บริษัทหยุดรับซื้อปลาป่นจากโรงงานที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว
“ซีพีเอฟ ไม่มีเรือประมง ไม่มีโรงงานปลาป่น แต่เป็นเพียงผู้ซื้อปลาป่นเท่านั้น เรายืนหยัดในความถูกต้อง บริษัทฯเดินหน้าทำความเข้าใจกับลูกค้า ถึงจุดยืนของบริษัทที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้แรงงานผิดกฏหมายในทุกวิธี” นายอดิเรก กล่าว
นายอดิเรก กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาการใช้แรงงานไม่ถูกต้อง การใช้แรงงานไม่เหมาะสมบนเรือประมง และการซื้อปลาป่นจากโรงงานผู้ผลิต ล้วนเป็นผลกระทบทางอ้อมในห่วงโซ่การผลิตของบริษัท ซึ่งภาครัฐและสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหาแล้วและได้เข้ามาช่วยแก้ไขอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม การชะลอการสั่งซื้อของลูกค้าในสหรัฐฯและยุโรปมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับบริษัทเท่านั้น โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซีพีเอฟมีลูกค้ามากกว่า 100 ราย และมีมูลค่าการส่งออกรวม 4,000 ล้านบาทต่อปี ในจำนวนนี้มีลูกค้าเพียงรายเดียวที่ชะลอการซื้อ โดยมีมูลค่าการสั่งซื้อ 600 ล้านบาทต่อปี เมื่อเทียบกับยอดขายรวมของบริษัทฯที่ 4 แสนล้านบาท เมื่อปีที่แล้วนั้น ถือว่าเป็นส่วนน้อย ส่วนผลกระทบในสหภาพยุโรปยังน้อยกว่าในสหรัฐฯมาก
นายอดิเรก กล่าวว่า ขณะนี้ในภาพรวมลูกค้ามีความเข้าใจดีและจะกลับเข้ามาซื้อสินค้าใหม่
เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ตคาร์ฟูร์ ในบางประเทศกลับเข้ามาซื้อสินค้าของบริษัทแล้ว หลังได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ เทสโก้ ของอังกฤษยังคงสั่งซื้อจากเราเป็นปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
บริษัทฯมีฐานการผลิตและขายใน 13 ประเทศ คิดเป็นยอดขาย 93% ขณะที่ยอดส่งออกมีเพียง 7% เท่านั้น ดังนั้นผลกระทบครั้งนี้เป็นเพียง 0.002% ของยอดขายเท่านั้น การขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจคงเป็นไปตามเป้าหมาย./