กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--โฟร์ฮันเดรท
กรมประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดราชบุรี ร่วมกับ ตลาดกลางปลาสวยงาม “Fish Village Ratchaburi” หรือ “ฟิช วิลเลจ ราชบุรี” จัดงาน “มหกรรมปลาสวยงาม 2557” เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงปลาสวยงามให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดราชบุรีซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตปลาสวยงามที่มากที่สุดในประเทศไทย โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการออกร้านแสดงพันธุ์ปลาไทยชนิดต่างๆ การแข่งขันวาดภาพระบายสี และการประกวด พันธุ์ปลาสวยงาม 4 ชนิด ได้แก่ ปลากัด ปลาหางนกยูง ปลาเงินปลาทอง และปลาหมอสีครอสบรีด ชิงถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัลมากมาย โดยกิจกรรม ดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2557 ณ ตลาดกลางปลาสวยงาม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หรือที่เรียกว่า “Fish Village Ratchaburi” แห่งใหม่นี้ บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 120 ไร่ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางตลาดปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนอีกด้วย
นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียประเทศหนึ่ง ดังจะเห็นได้จากปลาสวยงามของประเทศไทยที่มีศักยภาพสูงในการส่งออก โดยส่วนหนึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ
ซึ่งกรมประมงได้วางยุทธศาสตร์ปลาสวยงาม พ.ศ.2556 – 2559 ไว้เป็นกรอบในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในด้านการผลิต โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตปลาสวยงามสู่ตลาดโลก
ที่สำคัญกรมประมง ได้เน้นการพัฒนาศักยภาพการผลิตปลาสวยงาม ด้วยการพัฒนาระบบการผลิตสู่มาตรฐาน และรวมกลุ่มการผลิต รวมถึงการสร้างเครือข่ายเพื่อผลักดันไปสู่เป้าหมายผลผลิตปลาสวยงามส่งออกโดยในปี 2556 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี หรือประมาณ 124 ล้านตัว / จำนวนเกษตรกรรายใหม่ที่มีการขึ้นทะเบียนเพิ่มขึ้น 200 ราย /ปี และจำนวนฟาร์มที่ได้รับมาตรฐานการผลิตและการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5 ต่อปี ดังนั้น การจัดงาน “มหกรรมปลาสวยงาม” ประจำปี 2557 ในครั้งนี้จึงเป็นไปตามนโยบายของกรมประมงที่จะมีการพัฒนาด้านการตลาดเพิ่มมากขึ้น จะทำให้ทั้งผู้เพาะเลี้ยง ผู้รวบรวม ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภค ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปลาสวยงามได้รับการส่งเสริมและพัฒนาควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเน้นการสร้างพันธมิตรคู่ค้า เพื่อให้ธุรกิจปลาสวยงามของไทยขยายเครือข่ายไปทั่วโลก
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ประธานกรรมการบริหารตลาดกลางปลาสวยงามศรีบ้านโป่งมาร์เก็ต ผู้ประสบความสำเร็จในการบริหารตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดราชบุรี (ตลาดศรีเมือง) กล่าวว่า จากการที่ได้เล็งเห็นถึงการพัฒนาตลาดปลาสวยงามที่มีศักยภาพในประเทศไทย และการเจริญเติบโตของตลาดปลาสวยงามเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประเทศไทยมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ และภูมิอากาศมีความเหมาะสม กับการเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม และประกอบกับในภาคตะวันตก โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี ที่มีผู้เพาะเลี้ยงจำนวนมากถึง 1,700 ราย หรือกว่า 20,000 บ่อ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จึงเห็นว่าในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีควรมีตลาดกลางปลาสวยงามที่เป็นศูนย์รวม และเป็นศูนย์กลางในการค้าขายปลาสวยงาม
ทางบริษัทฯ จึงได้จัดซื้อที่ดินจากตลาดกรุณาการ์เด้นเดิมประมาณ 20 ไร่ มาพัฒนาต่อและขยายไปเป็น120 ไร่ มาจัดทำเป็นตลาดกลางปลาสวยงาม หรือที่เรียกว่า “ฟิชวิลเลจ ราชบุรี” นอกจากนี้ ยังก่อสร้างอาคารถาวรชั้นเดียวขนาด 320,000 ตารางเมตรหรือประมาณ 20 ไร่ พร้อมสาธารณูปโภคครบครันสำหรับการบริการพื้นที่ ซึ่งจะแล้วเสร็จกลางเดือนกรกฎาคมและจะทำการย้ายผู้ประกอบการเข้าไปในอาคารหลังใหม่
ด้วยความร่วมมือกับส่วนราชการทำให้ตลาดกลางปลาสวยงามศรีบ้านโป่งมาร์เก็ตนั้น มีความพร้อมและศักยภาพในการจัดงาน “มหกรรมปลาสวยงาม” ปี 2557 ที่จะช่วยส่งเสริมให้การเลี้ยงปลาสวยงามเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดราชบุรีถือเป็นแหล่งผลิตปลาสวยงามที่มากที่สุดในประเทศไทย
ผู้สนใจเพาะเลี้ยงหรือจำหน่ายสามารถเข้าเยี่ยมชมตลาดได้ทุกวันไม่มีวันหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันจันทร์มีตลาดนัดยามเช้า(05.00 น.) ซึ่งเป็นการพบปะกันระหว่างเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อ ได้พบผู้ผลิตโดยตรง
จากการร่วมมือกับกรมประมงและสำนักงานประมงจังหวัดราชบุรี ทำให้ตลาดกลางปลาสวยงามศรีบ้านโป่งมาร์เก็ต หรือ “ฟิชวิลเลจ ราชบุรี” (Fish Village Ratchaburi) ได้มีการจัดตั้งฝ่ายพัฒนาการผลิตเพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐาน GAP ที่จะเป็นมาตรฐานบันไดก้าวแรกสร้างมาตรฐานเพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพ เกษตรกรสามารถผลิต และส่งออกเองได้
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อให้เกษตรกรรายอื่นๆที่มีความสนใจ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของพี่น้องเกษตรกร ตลาดกลางปลาสวยงามศรีบ้านโป่งมาร์เก็ต หรือ “ฟิชวิลเลจ ราชบุรี” มีความเชื่ออย่างยิ่งว่าหากมีการพัฒนาอย่างจริงจังประเทศไทยจะมีศักยภาพในการพัฒนา และเป็นศูนย์กลางการผลิต และการค้าปลาสวยงามของโลกได้ในอนาคต
นายชนินทร์ แสงรุ่งเรือง ประมงจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ในการจัดงาน “มหกรรมปลาสวยงาม” ประจำปี 2557 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1-3 สิงหาคม 2557 ณ ตลาดกลางปลาสวยงาม “ฟิชวิลเลจ ราชบุรี” (Fish Village Ratchaburi)ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ของประมงจังหวัดราชบุรีครั้งหนึ่ง ซึ่งจะมีการรวมตัวของกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทั้งผู้เพาะเลี้ยง ผู้รวบรวม ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภค ได้มาพบปะกัน ซึ่งในงานจะมีการประกวดปลาสวยงาม 4 ชนิด 23 ประเภท โดยมีปลากัด 8 ประเภท ปลาหางนกยูง 8 ประเภท ปลาเงินปลาทอง 5 ประเภท และปลาหมอครอสบรีดอีก 2 ประเภท โดยมีการชิงถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัลมากมาย
นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงานยังมีการออกร้าน จำหน่ายสินค้า และแสดงพันธุ์ปลาไทยชนิดต่างๆ และมีการประกวดวาดภาพระบายสี, การแสดงนิทรรศการทางวิชาการ ด้านปลาสวยงาม และการประกวดจัดตู้ปลาสวยงาม อีกมากมาย และมีการเสวนาผู้ซื้อพบผู้ขาย ตลาดนัดวันจันทร์ หรือที่เรียกว่า มันเดย์มาร์เก็ต “เจรจาซื้อขาย” รวมถึงการมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เพาะเลี้ยงที่ได้คุณภาพ GAP เพื่อกระตุ้น และยกระดับให้กับผู้ประกอบการธุรกิจปลาสวยงามอีกด้วยจากจำนวนผู้เพาะเลี้ยงใน อ.บ้านโป่ง ซึ่งมีถึง 787 ราย และมีจำนวนบ่อกว่า 11,114 บ่อ โดยมีสัดส่วนของการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามถึง 33 % ปลาแม่น้ำ 25 % ปลาทอง 20% ปลาสอด 14% ปลาหางนกยูงอีก 8% และถ้าแบ่งเป็นสัดส่วนจำนวนบ่อเพาะเลี้ยง จะเป็นปลาสวยงามถึง 66% ปลาทอง และปลาสอด อย่างละ 11% ปลาแม่น้ำ 10% และปลาหางนกยูงอีก 2% ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ จะสามารถทำให้ตลาดมีอัตราการเติบโตโดยรวม ทั้งผู้เพาะเลี้ยง ผู้ค้า และผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ก็จะส่งเสริมให้มีสภาพเศรษฐกิจที่ดีตามไปด้วย
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “มหกรรมปลาสวยงาม” ประจำปี 2557 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2557 ณ ตลาดกลางปลาสวยงาม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หรือที่เรียกว่า “ฟิชวิลเลจ ราชบุรี” (Fish Village Ratchaburi) ได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 18.00 น. ติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงาน และตลาดกลางปลาได้ที่ facebook.com/SriBanpongMarket หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 082 – 111 0440 และ082 – 111 0550