กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--อมตะ คอร์ปอเรชั่น
“อมตะ” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 กำไรเพิ่มขึ้น 150% ยอดขายพื้นที่เพิ่มกว่า 80% คาดครึ่งปีหลังยังฉลุย คาดปรับเป้าขายพื้นที่เพิ่มไตรมาส 3 เตรียมรุกธุรกิจบริการเสริม เปิดศูนย์แพทย์อมตะ ชี้จีนประกาศลอยตัวเงินหยวน ช่องทางทุนจีนทะลักเข้าไทย จี้รัฐเอาจริงปรับระบบบริหารจัดการน้ำใหม่ หวั่นกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2548 ว่าบริษัทสามารถขายพื้นที่ได้ทั้งหมด 671.11 ไร่ แบ่งเป็น นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี จำนวน 217.5 ไร่ และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง จำนวน 453.61 ไร่ มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 21 ราย ส่วนรายได้รวมมีมูลค่าทั้งสิ้น 1,508 ล้านบาท ผลกำไรสุทธิ 404.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.38 บาท ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการเติบโตกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 150% และยอดพื้นที่ขายเพิ่มขึ้นกว่า 80% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในนิคมอมตะมากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาห กรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ เพื่อป้อนให้กับบริษัทรถยนต์รายใหญ่หลายรายที่ย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในไทย
“ทิศทางการดำเนินธุรกิจในครึ่งหลังปี 2548 บริษัทอาจทบทวนการปรับตั้งเป้ายอดขายที่ดินในพื้นที่นิคมอมตะนคร จ.ชลบุรี และ อมตะซิตี้ จ.ระยอง ภายหลังไตรมาส 3 อีกครั้ง โดยในครึ่งปีหลังนี้ กลุ่มลูกค้าหลัก จะยังเป็นนักลงทุนกลุ่มเดิมที่เตรียมขยายกำลังการผลิต รวมถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ประเภทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดพื้นที่กว่า 100 ไร่ อีก 2-3 ราย โดยยังเป็นลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็คโทรนิกส์ จากประเทศญี่ปุ่น และจีน เป็นหลัก และมั่นใจว่ายอดขายพื้นที่ของบริษัททั้งปี 2548 จะเติบโตราว 60 % เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547” นายวิบูลย์กล่าว
“อมตะ”ครึ่งปีแรกโตกว่าคาด
ผลการดำเนินการในช่วงครึ่งปีแรก 2548 บริษัทขายพื้นที่ในนิคมฯรวมจำนวน 901.74 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในอมตะนคร จำนวน 427.21 ไร่ และอมตะซิตี้ จำนวน 474.53 ไร่ จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 39 ราย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,534.06 ล้านบาท ผลกำไรสุทธิ 624.12 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.58 บาท โดยกลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มชาวญี่ปุ่นคิดเป็นอัตราร้อยละ 30 รองลงมาคือ นักลงทุนชาวไทย ร้อยละ 21 ซึ่งเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ถึงร้อยละ 38
“อมตะ”พร้อมรับกระแสลงทุนญี่ปุ่น
นายวิบูลย์ กล่าวเสริมว่า โดยรวมแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ เช่น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และสถานการณ์การก่อการร้าย เป็นต้น แต่บริษัทอมตะก็ยังมั่นใจว่า จากการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาลจะเร่งให้โครงการเมกกะโปรเจ็กต์ต่างๆมีความต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม มากขึ้น ประกอบกับนโยบายทางเศรษฐกิจในการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น (FTA) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายน ปี 2549 คาดว่า ในครึ่งปีหลังจะมีจำนวนนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนเพิ่มในไทยมากขึ้นอีก
มั่นใจ”หยวนแข็งค่า”นักลงทุนจีนโดดเข้าไทย
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายปรับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นของจีน ที่จะทำให้เกิดการย้ายฐานการลงทุนของนักลงทุนจีนมาไทยมากขึ้น เนื่องจากภาวะอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นของจีน อาจจะส่งผลให้ภาวะการลงทุนในประเทศจีนมีการเปลี่ยนแปลง โดยนักลงทุนจีนจะเริ่มขยายการลงทุนออกสู่ต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในแถบอาเซียน โดยไทยนับเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับนักลงทุนจีน เนื่องจากเป็นแหล่งการลงทุนที่มีศักยภาพ และมีเสถียรภาพทางการเมืองเมื่อเทียบกับหลายประเทศในแถบใกล้เคียง
“อมตะ”ชี้ระบบจัดการน้ำตะวันออกด้อย
สำหรับปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคอุตสาหกรรม ในพื้นที่ลงทุนชายฝั่งทะเลตะวันออก (อีสเทิร์นซีบอร์ด) ขณะนี้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มตื่นตัวที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งในข้อเท็จจริงปริมาณน้ำในภาคตะวันออกมีปริมาณมาก แต่สาเหตุหลักมาจากการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งในระยะต่อไปหากรัฐบาลสามารถเข้าไปดำเนินการวางรากฐานการแก้ปัญหาให้ตรงจุด เชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ในภาคอุตสาหกรรมในระยะยาวได้
“อมตะ”แตกไลน์ธุรกิจบริการ
นางสมหะทัย พานิชชีวะ ผู้อำนวยการสายพัฒนาธุรกิจ กล่าวถึงแผนการพัฒนาธุรกิจใหม่ในเครือของอมตะในขณะนี้ว่า อมตะยังคงเป้าหมายการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมงานบริการ และความสะดวกสบายให้กับนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม โดยยังตั้งเป้าที่จะเปิดบริษัทลูกให้ได้ 50 บริษัทภายใน 3 ปี โดยในขณะนี้มีอยู่แล้ว 13 บริษัท ส่วนบริการเสริมเพื่อความครบวงจรของ”เมืองอุตสาหกรรมสมบูรณ์แบบ” ที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ ได้แก่ โครงการเปิด “ศูนย์การแพทย์อมตะ” เพื่อสานต่อนโยบายกระทรวงแรงงาน และกระทรวงสาธารณสุข ในการสร้างหลักประกันสุขภาพแรงงาน โดยอมตะจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมแม่แบบแห่งแรกในประเทศไทย ที่ดำเนินโครงการนี้ ซึ่งพร้อมที่จะเปิดให้บริการภายในตุลาคมนี้
“อมตะ” ผุดโรงงานสำเร็จรูปเฟส 2 ภายใน ก.ย.นี้
ในส่วนของบริษัท อมตะ ซัมมิท เรดดี้บิลท์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอมตะ ที่ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการบริการอาคารโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ในเฟสแรกได้จัดสร้างโรงงานขนาด 850-1,200 ตรม.จำนวน 8 หลัง เพื่อบริการให้เช่าแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ และมีลูกค้าบริษัทฝรั่งเศส, สิงคโปร์ และญี่ปุ่น 2 ราย เข้ามาเช่าพื้นที่แล้วจำนวน 4 หลัง ขณะเดียวกันยังมีลูกค้าอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างเจรจาสร้างแบบอาคารโรงงาน ดังนั้น ภายในปีนี้จึงเตรียมขยายเฟส 2 ซึ่งจะจัดสร้างเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 7 หลัง ในเขตปลอดอากร นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชลบุรี โดยมีแผนเริ่มก่อสร้างในเดือนกันยายนนี้ และจะสามารถให้เช่าอาคารได้ในช่วงต้นปีหน้า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
มุก โทร.038-213-007, 01-734-3651--จบ--