กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลท. เผย บจ. ยังเห็นโอกาสและประโยชน์จากการระดมทุนผ่านตลาดทุนไทยทั้ง ตลท. และ mai เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ แม้ช่วงที่ผ่านมามีปัจจัยภายในประเทศส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุน โดยช่วงครึ่งปีแรกมีหลักทรัพย์เข้ามาจดทะเบียน 17 หลักทรัพย์ คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO รวม 127,140 ล้านบาท ปัจจุบันมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) ของหุ้นเข้าใหม่นี้เติบโตจากราคา IPO ถึง 32%
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ภาพรวมทางเศรษฐกิจของไทยเริ่มมีความชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวดีขึ้น มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มสูงขึ้น มีหลักทรัพย์เข้าใหม่เริ่มเข้ามาซื้อขายใน ตลท. และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2557) มีหลักทรัพย์เข้ามาจดทะเบียนแล้ว 17 หลักทรัพย์ แบ่งเป็น ตลท. 9 หลักทรัพย์ mai 4 หลักทรัพย์ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 4 กอง มูลค่าระดมทุนรวม 52,262 ล้านบาท โดยมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ (THIF) ระดมทุนสูงสุดถึง 26,200 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสนอขายหน่วยลงทุนสูงที่สุดนับแต่ ตลท. เปิดการซื้อขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในปี 2546 เป็นต้นมา
“แม้ว่าหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนช่วงครึ่งปีแรกจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO รวม 127,140 ล้านบาท ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปัจจุบันมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของหลักทรัพย์ที่เข้าใหม่นี้ได้เพิ่มขึ้นจากราคา IPO 32% โดยมีราคาสูงกว่าราคา IPO เฉลี่ย 49% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557) นอกจากนี้ ยังมีหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตและรอเข้าซื้อขายอีก 9 หลักทรัพย์ และมีหลักทรัพย์ที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาคำขออีก 29 หลักทรัพย์ รวมทั้งคาดว่าจนถึงสิ้นปีน่าจะมีหลักทรัพย์ที่จะยื่นคำขอเพิ่มขึ้นอีก 19 หลักทรัพย์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและการลงทุนในประเทศในช่วงที่ผ่านมา แต่ภาคธุรกิจยังมีความเชื่อมั่น และเล็งเห็นประโยชน์จากการระดมทุนในตลาดทุนไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขยายโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้น ตลท. ยังคงกำหนดตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 210,000 ล้านบาท” นายชนิตร กล่าว