เกษตรฯ แจงปริมาณน้ำในเขื่อนหลักมากกว่าปีที่ผ่านมา ชี้ในพื้นที่เขตประทานไม่น่าห่วง ด้านพื้นที่นอกเขตอาจประสบปัญหาปริมาณฝนน้อยในบางพื้นที่ กรมชลฯ เร่งประชาสัมพันธ์พื้นที่เสี่ยงน้ำน้อยให้เลื่อนทำนาออกไปก่อน

ข่าวทั่วไป Friday July 4, 2014 10:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์ นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศขณะนี้ พบว่า มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 35,140 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด ซึ่งมากกว่าปี 2556 จำนวน 1,184 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังสามารถรองรับน้ำในฤดูฝนนี้ รวมกันได้มากกว่า 37,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เขตชลประทานเพื่อการเพาะปลูกในฤดูกาลผลิตนี้ได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ยังเป็นกังวลคือพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่ขณะนี้หลายพื้นที่ประสบความแห้งแล้งเนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมาน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยกรมชลประทานจะมีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งเตือนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดฝนทิ้งช่วงให้เลื่อนการเพาะปลูกออกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการป้องกันผลกระทบผลผลิตที่จะเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ในเกณฑ์น้อย แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนมาได้ระยะหนึ่งแล้วก็ตาม โดยเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 4,163 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 31 % ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 3,249 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 34% ของความจุอ่างฯ โดยปริมาณน้ำทั้งอ่างรวมกันมีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 7,412 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 32% ของความจุอ่างฯ ซึ่งกรมชลประทานและกฟผ. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกับวางแนวทางในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกลงมา โดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อน พร้อมไปกับการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด สำหรับสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้านี้อย่างเพียงพอ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ