กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันในปัจจุบันของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันก็ได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันใหม่ 2 ชุดในวงเงินรวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” พร้อมเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Positive” หรือ “บวก” จากเดิมเป็น “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม การกระจายความเสี่ยงของธุรกิจโดยการมีสินค้าที่หลากหลายและการลงทุนในประเทศต่างๆ ตลอดจนการมีธุรกิจที่ครบวงจร และคณะผู้บริหารที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรกรรมพื้นฐาน ปัญหาโรคระบาด และมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของประเทศผู้นำเข้า
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนถึงแนวโน้มที่ดีในธุรกิจกุ้งอันเนื่องมาจากอัตราภาษีทุ่มตลาดสำหรับกุ้งไทยที่ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศสหรัฐอเมริกาต่ำกว่าของคู่แข่งจากประเทศอื่น รวมทั้งคาดว่าความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทจะมีเพิ่มขึ้นหลังจากที่โรงงานไก่แปรรูปแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จและธุรกิจกุ้งบรรลุเป้าหมายการเป็นธุรกิจแบบครบวงจร
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวถือเป็นธุรกิจหลักของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในประเทศไทยด้วย ธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ สัตว์บก และสัตว์น้ำ ซึ่งบริษัทมียอดขายในระดับ 75% และ 25% ของยอดขายรวมในปี 2547 ตามลำดับ การดำเนินธุรกิจไก่แบบครบวงจรส่งผลให้สินค้าของบริษัทได้มาตรฐานสากลและสามารถส่งออกไปยังกลุ่มประเทศยุโรปและประเทศญี่ปุ่น
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2547 ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากการระบาดของโรคไข้หวัดนกทั้งในประเทศและประเทศอื่นๆ ในเอเซีย ทั้งนี้ คาดว่าโรคไข้หวัดนกจะยังคงอยู่ แต่จะมีความรุนแรงของการระบาดที่ลดลง ในขณะที่ธุรกิจไก่ส่งออกได้เปลี่ยนมาเน้นส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปเป็นหลัก ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2548 ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมากจากการเพิ่มขึ้นของราคาสัตว์บกในประเทศ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนในการที่จะรักษาระดับราคาสินค้าให้คงอยู่เช่นในปัจจุบัน แต่การที่บริษัทมีกลยุทธ์มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานมากขึ้นน่าจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรกรรมพื้นฐานได้บางส่วน ทริสเรทติ้งกล่าว--จบ--