กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--Kepa Mekong Service Center
เครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาล เดินหน้าตรวจสอบกองสลากต่อเนื่อง หลังกดด้นบอร์ดลาออกเปิดทางปฏิรูปสำนักงานสลากฯ ล่าสุดเข้าร้องสตง.ตรวจสอบการใช้งบประมาณและรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชนหนุนปฏิรูปกองสลาก
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เมื่อเวลา10.00น. นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย สมาชิกเครือข่าย กว่า30คน เข้าพบนางสาวประพีร์ อังกินันทน์ รักษาราชการผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายการเมือง ขาดหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ โดยเฉพาะในอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ทั้งนี้ นางสาวพวงชมนาถ จริยะจินดา รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายธนากร กล่าวว่า ภาคประชาชนต้องการให้ สตง.ทำความจริงให้ปรากฎ เพราะจากการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการสลากฯ พบข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับการอนุมัติใช้เงินของกองสลากฯ อยู่ 3ประการ คือ1.กองสลากไม่มีข้อกำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับเงินบริจาคหรือสนับสนุนจากกองสลากเลย ฉะนั้น จึงเป็นช่องโหว่ว่าผู้ขอเงินจากกองสลากจะเป็นใครก็ได้ทั้งบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ 2.กองสลากไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะถึงชื่อหน่วยงาน องค์กร บุคคลที่ได้รับเงิน วงเงิน และระยะเวลาที่ได้รับ แตกต่างจากของต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ซึ่งมีองค์กรทำหน้าที่จัดสรรเงินจากการขายสลากให้องค์กรสาธารณะประโยชน์ต่างๆ จะมีประกาศรายละเอียดของผู้รับเงินทางเว็บไซต์เป็นประจำ และ3.ที่ผ่านมากองสลากไม่มีกระบวนการตรวจสอบการใช้เงินของผู้รับเงินว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ขอมาหรือไม่ รวมทั้งการมีการประเมินผลลัพธ์ของกิจกรรมตามโครงการที่ขอมา ก็เพิ่งจะมีเมื่อเดือนตุลาคม 2554 เท่านั้น
“จากข้อห่วงใยดังกล่าว เครือข่ายภาคประชาชน จึงขอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเฉพาะในอำนาจของผู้อำนวยการ ว่ามีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และมีความเชื่อมโยงกับฐานทางการเมืองของพรรคการเมืองใดๆหรือไม่ และขอให้ตรวจสอบกลไกการทำงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ไม่เคยแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาได้เลย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าผลประโยชน์มหาศาลตกอยู่กับนายหน้าที่เป็นเสือนอนกิน”นายธนากร กล่าว
นายธนากร กล่าวว่า เครือข่ายภาคประชาชน ขอให้กำลังใจ สตง.ในการทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคม เพื่อพิสูจน์ข้อครหาที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกภาคสังคมตั้งคำถามมานาน ในเรื่องความไม่โปร่งใส การเอื้อกับฝ่ายการเมือง และการมีผลประโยชน์ทับซ้อนและหากการตรวจสอบพบว่ามีมูลความผิดตามกฎหมาย ขอให้ สตง.ส่งเรื่องผลการตรวจสอบดังกล่าวให้ทางคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) โดยด่วน อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯได้เปิดการณรงค์ให้มีการ “ปฏิรูปสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” ผ่าน www.change.org/lotteryreform ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก และร่วมลงชื่อกว่า15,000 คนในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ โดยทางเครือข่ายฯจะรวบรวมรายชื่อให้มากที่สุด เพื่อยื่นให้กับผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากนั้น นางสาวพวงชมนาถ กล่าวภายหลังรับเรื่องจากเครือข่ายฯ ว่า ทางสตง.จะรับไว้พิจารณา เพราะเรื่องปัญหาสลากถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้ความสำคัญ และหลังจากนี้จะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.)เพื่อพิจารณาเรียกตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ จากนั้นหากพบว่ามีหลักฐานชี้มูลความผิด จะส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างไรก็ตาม คาดว่าใน1เดือนจากนี้จะมีความคืบหน้า