กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
เปิดโลกทัศน์ 3 นักเตะเยาวชนดาวรุ่งไทยเรียนรู้เทคนิคลูกหนังจากทีมโค้ชบราซิล พร้อมกระทบไหล่ ตำนานฟุตบอลบราซิล “เบเบโต้” ร่วมกับเพื่อนเยาวชนนับร้อย จากกว่า 28 ประเทศทั่วโลก
-สานฝันนักฟุตบอลเยาวชนในแบบ “โค้ก เท่านั้นที่ทำได้” ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดเปิดสนามสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมกับแฟนบอลทั่วโลกกว่า 60,000 คน ตอกย้ำแนวคิดฟุตบอลโลก 2014 ของโค้ก FIFA World CupTM คือกีฬาฟุตบอลของทุกคน
“โค้ก” ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World CupTM โดย กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย นำ 3 นักฟุตบอลเยาวชนไทย เปิดเผยประสบการณ์ หลังเข้าร่วมค่ายฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ “โคปา โคคา-โคลา แคมป์ 2014” (COPA Coca-Cola Camp) ที่ประเทศบราซิล โดย 3 เยาวชนนักเตะได้เป็นส่วนหนึ่งของเยาวชนอีกนับร้อย จาก 28 ประเทศทั่วโลก ในค่ายฟุตบอลเยาวชนนานาชาติดังกล่าวที่โค้กจัดขึ้น
ตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนไทย ได้แก่ 1. น้องเชียร์เรอร์ – อลงกต ไชยวิเศษ 2. น้องเครป – โสมนัส ขวัญจิต และ 3. น้องดอน – โรมาดอน มีดามี โดยมี โคปา โคคา-โคลา แคมป์ แอมบาสซาเดอร์ “เบเบโต้” อดีตนักฟุตบอลดาวเด่นและโค้ชแห่งทีมชาติบราซิล ถ่ายทอดประสบการณ์การเล่นฟุตบอลเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ พร้อมฝึกทักษะฟุตบอลแบบบราซิลกับทีมโค้ชอย่างใกล้ชิด
คุณกรอบแก้ว ปันยารชุน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์สื่อสารการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ประเทศไทยได้ส่งตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนจำนวน 3 คน เข้าร่วมกิจกรรม ‘โคปา โคคา-โคลา แคมป์’ เป็นครั้งแรก โดยการสนับสนุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างแรงบันดาลใจให้นักฟุตบอลเยาวชนไทยได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง และเข้าใจถึงประโยชน์ของการออกกำลังกาย พร้อมเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลเยาวชนไทยได้ฝึกฝนเทคนิคฟุตบอลจากต้นแบบบราซิลและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในค่ายฟุตบอลเยาวชนระดับโลกอย่างเต็มที่ เครื่องดื่มโค้ก ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World CupTM ยังได้มอบประสบการณ์ล้ำค่าครั้งหนึ่งในชีวิตให้เยาวชนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ฟุตบอลโลกกับการเข้าชมพิธีเปิดและการแข่งขันคู่เปิดสนามระหว่างทีมบราซิลและโครเอเชียอย่างใกล้ชิดอีกด้วย”
ทั้งนี้ 3 ตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนไทย ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกประทับใจที่ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่วมค่ายฟุตบอลเยาวชนนานาชาติครั้งนี้ โดยต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่า นี่คือประสบการณ์ล้ำค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขา
น้องเชียร์เรอร์ – อลงกต ไชยวิเศษ มิดฟิลด์แนวรุกคนเก่ง สมาชิกสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “โดยส่วนตัวผมประทับใจโค้ชและทีมงานที่ดูแลเอาใจใส่ตัวแทนเยาวชนทุกคนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน เพราะที่ค่าย ‘โคปา โคคา-โคลา แคมป์’ แห่งนี้ ทุกคนต่างคือ ‘แชมป์เปี้ยน’ นอกจากนี้ การฝึกซ้อมแต่ละครั้งและการแข่งขันแต่ละแมทช์ยังเปิดโอกาสให้เราได้เข้าใจศักยภาพของตนเอง เมื่อได้มาเรียนรู้เทคนิคและฝึกซ้อมฟุตบอลในครั้งนี้ ทำให้ผมเห็นว่า ตัวเองยังพยายามไม่มากพอ ยิ่งได้มาเห็นความมุ่งมั่นและทุ่มเทของเพื่อนเยาวชนต่างชาติแล้ว ยิ่งทำให้ผมต้องตั้งใจฝึกซ้อมให้มากขึ้น ต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในทุกๆ วัน และอีกหนึ่งความประทับใจที่ผมจะไม่มีวันลืมคือ ในการแข่งขันกระชับมิตร ผมมีโอกาสได้ทำประตูลูกโทษให้กับทีม ‘Friendship’ ทำให้ทีมของผมชนะเป็นอันดับที่สาม สุดท้ายนี้ ผมตั้งใจว่าจะเล่าความรู้สึกและแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับกับเพื่อนๆ ที่เมืองไทยอย่างแน่นอน นอกจากนี้ความรู้สึกในวันที่ได้ชมพิธีเปิดและคู่เปิดสนามระหว่างบราซิลและโครเอเชีย มันทำให้ผมรู้สึกขนลุก และถามตัวเองว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อไปยืนในจุดที่เราร้องเพลงชาติก่อนลงแข่งขัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลของผมเลยครับ”
น้องเครป – โสมนัส ขวัญจิต กองหลังเล็กพริกขี้หนู สมาชิกสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า “การมาค่ายฟุตบอลกับโค้กครั้งนี้ ทำให้ผมได้เปิดมุมมองและได้สัมผัสประสบการณ์ที่เกินความคาดหมายหลายอย่าง ได้เห็นเทคนิคการเล่นฟุตบอลที่หลากหลายของเพื่อนเยาวชนต่างชาติ ซึ่งจากการได้มาเรียนรู้และฝึกซ้อมที่นี่ ทำให้เห็นเลยว่าคนเอเชียอย่างเรามีปัญหาด้านสรีระ แต่โค้ชก็สอนผมว่า อย่าให้อะไรก็ตามมาเป็นอุปสรรคหยุดยั้งเราได้ นอกจากนี้ โค้ชยังสอนให้เรารู้จักนำเทคนิคต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับการเล่นฟุตบอล ผ่านกิจกรรมเสริม เช่น การเล่น ‘Foot Volleyball’ ที่ช่วยฝึกทักษะการนำส่วนต่างๆ ของร่างกายมาใช้ โดยเฉพาะส่วนเท้า และการฝึก ‘Capoeira’ (คาโปเอล่า) ซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัวแบบบราซิลที่ผสมผสานระหว่างการเต้นรำ แอโรบิค และดนตรีที่เร้าใจ เรียกได้ว่าการจะเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จนั้น ต้องหูตากว้างไกลจริงๆ นอกจากนี้ผมยังได้เห็นความมุ่งมั่นของเพื่อนๆ ต่างชาติ แล้วก็ต้องกลับมามองและพัฒนาตัวเอง ให้ฝึกฝนและไม่ย่อท้อ และที่ผมชอบมากอีกอย่างหนึ่งก็คือ การได้เพื่อนใหม่ๆ ได้เรียนรู้รูปแบบการเล่นฟุตบอลของประเทศต่างๆ ครับ”
ปิดท้ายด้วย น้องดอน – นายโรมาดอน มีดามี ผู้รักษาประตูมือกาว สมาชิกทีมฟุตบอลโรงเรียนจากยะลา กล่าวว่า “ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้มาบราซิล ประเทศที่ผู้คนหายใจเข้าออกเป็นฟุตบอลอย่างแท้จริง รวมถึงได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้คนกว่าหกหมื่นคนที่มาชมการแข่งขันฟุตบอลโลก และได้กระทบไหล่นักฟุตบอลดังระดับโลกอย่าง ‘โค้ชเบเบโต้’ ‘กาก้า’ หรือ ‘เนย์มาร์’ ผมสังเกตว่านักฟุตบอลดังเหล่านี้มีคุณสมบัติเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน พวกเขาจะมีสมาธิและตั้งใจฟิตซ้อมร่างกายก่อนลงสนามแข่งเสมอ นอกจากนี้ ผมยังประทับใจที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน ทำให้เห็นว่าฟุตบอลไม่ใช่กีฬาเพื่อการแข่งขันอย่างเดียว แต่ฟุตบอลสามารถทำประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ ค่ายแห่งนี้สอนให้รู้ว่า ยิ่งเราแบ่งปันและเปิดใจกว้าง เราจะยิ่งได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนกลับมา โดยเฉพาะมิตรภาพอันมีค่าจากเพื่อนต่างชาติและเพื่อนชาวไทยด้วยกันที่ผมจะไม่มีวันลืม”
ตลอดระยะเวลา 5 วันในค่าย “โคปา โคคา-โคลา แคมป์ 2014” ตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนได้ร่วมกิจกรรม สุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย อาทิ (1) การฝึกซ้อมเทคนิคกีฬาฟุตบอล ภายใต้การดูแลของโค้ชและทีมงานผู้มีประสบการณ์ (2) การแข่งขันกระชับมิตร ที่เน้นให้นักฟุตบอลเยาวชนได้มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างทั่วถึง รู้จักทำงานเป็นทีม เคารพซึ่งกันและกัน รวมไปถึงเรียนรู้และเข้าใจคู่แข่ง (3) กิจกรรมฟุตบอลเพื่อชุมชน ที่ตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนได้มีโอกาสปรับปรุงสนามฟุตบอล ทำกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมการออกกำลังกายให้กับชุมชน ณ ศูนย์เยาวชนดอม บอสโก และพิเศษสุด (4) สัมผัสประสบการณ์ฟุตบอลโลกครั้งหนึ่งในชีวิต ทั้งการชมพิธีเปิดการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่และการแข่งขัดนัดเปิดสนามระหว่างทีมชาติบราซิล – โครเอเชีย ณ สนามอารีน่า เดอ เซาท์ เปาโล ร่วมกับแฟนบอลกว่า 60,000 ชีวิต
คุณกรอบแก้ว กล่าวเสริมว่า “รู้สึกยินดีที่การมาร่วมค่ายฟุตบอลเยาวชนระดับโลกครั้งนี้ ทำให้เยาวชนไทยเกิดแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาตนเอง และคิดริเริ่มที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป ซึ่งแนวคิดและค่านิยมที่ดีต่างๆ อาทิ การทำงานเป็นทีม การเปิดใจกว้าง การเห็นคุณค่าของมิตรภาพ และการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม จะเป็นพื้นฐานให้เยาวชนเจริญก้าวหน้าทั้งในสายอาชีพฟุตบอลและการดำเนินชีวิต การเข้าร่วมค่าย ‘โคปา โคคา-โคลา แคมป์ 2014’ ณ ประเทศบราซิล ของตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนไทย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ตัวแทนของเรามีโอกาสได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ รวมถึงได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้นานาชาติได้รู้จัก แม้ว่าตัวแทนเยาวชนจะมาจากต่างชาติ ต่างภาษา แต่ค่ายแห่งนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกคนมีหัวใจดวงเดียวและพูดภาษาเดียวกัน นั่นคือ ภาษาฟุตบอล”
การส่งตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนไทยเข้าร่วม “โคปา โคคา-โคลา แคมป์ 2014” คือหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ด้านกีฬา โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลที่โค้กดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนระดับท้องถิ่นคือ “ฟุตบอลเยาวชนโค้กคัพ” ระดับประเทศคือ “ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก” และระดับโลกคือ “ฟุตบอลโลก FIFA World CupTM” นอกจากนี้ โค้กยังสนับสนุนให้ผู้บริโภคทั่วไปใช้ชีวิตแบบ “Active Healthy Living” ซึ่งเป็นแนวคิดของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงสดใส
โคคา-โคลา คือผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World CupTM มามากกว่า 60 ปี เริ่มต้นจากการสนับสนุนป้ายโฆษณารอบสนามแข่งขัน โดยได้เซ็นสัญญาให้การสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World CupTM อย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 และต่อเนื่องไปจนถึงปี ค.ศ. 2022
ร่วมสุขซ่ากับบอลโลกฟีฟ่าต้องโค้ก ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/cocacola และ www.icoke.co.th
“ร่วมสุขซ่ากับฟุตบอลโลกของทุกคนต้องโค้ก”