กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
สานต่อคำมั่นสัญญาต่อชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย มอบรายได้รวม 1.5 ล้านบาท จากการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วในร้านตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) โดย มร.เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) ฉลองครบรอบ 1 ปีของร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งแรกในเอเชียและนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ร้านสตาร์บัคส์ สาขาหลังสวน และพร้อมสานต่อเจตนารมย์ในการช่วยเหลือชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยบริจาคเงินจำนวน 1,500,000 บาทจากรายได้ 10 บาทในการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วในร้านกาแฟเพื่อชุมชนตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ให้แก่องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (The Integrated Tribal Development Program) หรือ ไอทีดีพี เพื่อการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
“เมื่อปีที่แล้ว มร. ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ ประธานบริษัท ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ได้เดินทางมาเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งนี้ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) ในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาของเราในการตอบแทนคืนสู่ชุมชน และยิ่งไปกว่านั้นยังได้ให้ความช่วยเหลือชุมชนชาวไร่กาแฟให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนอีกด้วย ในวันนี้ สตาร์บัคส์ ยังคงดำเนินอยู่บนเส้นทางนี้ และมุ่งมั่นสานต่อความสัมพันธ์อันทรงพลังระหว่างสตาร์บัคส์และชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศต่อไป เรามุ่งมั่นให้ชุมชนชาวไร่กาแฟได้รับประโยชน์สูงสุดจากเงินช่วยเหลือที่มอบผ่านองค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟ” มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งนี้เปิดดำเนินการเป็นแห่งที่ 4 ของโลก ซึ่งอีก 3 ร้าน ตั้งอยู่ที่ ลอสแองเจลิส นิวยอร์คและเท็กซัส โดยร้านกาแฟเพื่อชุมชนแต่ละร้านได้ดำเนินการภายใต้คำมั่นสัญญาของสตาร์บัคส์ที่ต้องการ ตอบแทนคืนสู่ชุมชน ด้วยปณิธานที่ว่าหากชุมชนได้รับการดูแลให้เติบโตเป็นอย่างดีแล้ว ทุกคนที่อาศัยในชุมชนก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยร้านกาแฟเพื่อชุมชนแต่ละร้านมีแนวทางการดำเนินการที่แตกต่างกันไปตามแต่ความต้องการของแต่ละชุมชน แต่สิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกัน คือ ความเชื่อที่ว่าเมื่อคนในชุมชนได้ร่วมมือช่วยเหลือซึ่งและกันแล้ว สิ่งดีๆ สามารถเกิดขึ้นตามมา
เงินบริจาคในวันนี้จะนำไปเป็นเงินสนับสนุนในการสร้างศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ชุมชนบ้านแม่ขี้มูกน้อยและบ้านกองกาย อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยหลังจากนั้น จะนำไปพัฒนาโครงการด้านการศึกษา สุขอนามัย และโครงการชลประทานต่างๆ อีกด้วย
มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า “ยังมีลูกค้าจำนวนมากทั้งในชุมชนหลังสวนแห่งนี้และบริเวณใกล้เคียงอื่นๆ ที่ยังไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสกับชีวิตชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งการเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนในครั้งนี้จะเป็นสะพานเชื่อมชุมชนทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน โดยลูกค้าที่เข้ามารับบริการ ณ ร้านกาแฟเพื่อชุมชนนี้ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้เกิดแก่ชีวิตของชุมชนชาวไร่ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่ยากลำบากและอยู่ห่างไกลได้”
“เราได้เห็นการพัฒนาทั้งในคุณภาพชีวิต ระบบระบบสาธารณูปโภค สถานีอนามัย และโรงเรียนของชุมชน ชุมชนชาวไร่กาแฟได้รับประโยชน์จากการพัฒนาดังกล่าว และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น สำหรับเงินบริจาคที่ได้รับมอบครั้งนี้ จะนำไปขยายการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาด้านทักษะในการทำเกษตรกรรม ด้านช่างยนต์ และทักษะการสื่อสารเพื่อต่อรองในการจำหน่ายผลผลิต รวมทั้งส่งเสริมให้ชาวไร่สามารถผลิตกาแฟคุณภาพเยี่ยมให้กับพวกเราอย่างต่อเนื่องเป็นการตอบแทน และยังเป็นการต่อโอกาส ความรู้ และอนาคตที่ดีให้แก่ชาวไร่กาแฟรุ่นต่อไป” มร.ไมค์ แมนน์ ผู้อำนวยการ องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน กล่าว
ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ ได้มอบความช่วยเหลือแก่ชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดยรายได้ 5% ของการจำหน่ายกาแฟ ม่วนใจ๋ เบลนด์ ซึ่งเป็นกาแฟที่เพาะปลูกในพื้นที่ทางภาคเหนือของไทยได้ถูกนำมาพัฒนาและช่วยเหลือชุมชนชาวไร่กาแฟที่เพาะปลูกกาแฟ ม่วนใจ๋ เบลนด์