“ริชี่เพลซ 2002” เตรียม IPO 214 ล้านหุ้น ภายในไตรมาส 3 นี้ นำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจอสังหาฯทำเลมีอนาคต!แนวรถไฟฟ้า

ข่าวอสังหา Tuesday July 8, 2014 10:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--IR network บมจ.ริชี่เพลซ 2002 (RICHY) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ใกล้แนวรถไฟฟ้า ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว เตรียมขายหุ้นไอพีโอ 214 ล้านหุ้นและเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯภายในไตรมาส 3/57 “ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์” หัวเรือใหญ่มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่เต็มสูบ ชูจุดเด่นโครงการอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงใกล้แนวรถไฟฟ้าไม่เกิน 100 เมตร มีชื่อเสียงมากกว่า 12 ปี ที่สำคัญความสามารถทำกำไรโดดเด่นมีมาร์จิ้นสูงถึง 36% เมื่อสิ้นปี ‘56 ที่ผ่านมา เชื่อนักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) (RICHY) เปิดเผยว่า RICHY เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย มีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทมีแผนที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 214 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 29.97% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในไตรมาส 3/57 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบัน RICHY มีทุนจดทะเบียน 714 ล้านบาท มีทุนที่ชำระแล้วจำนวน 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 500 ล้านหุ้น เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีจุดเด่นในหลายด้าน เช่น ทำเลที่ตั้งของโครงการของบริษัทตั้งอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าในรัศมีไม่เกิน 100 เมตร บริษัทมีความสามารถในการบริหารต้นทุน และเวลาในการก่อสร้าง รวมถึงมีประสบการณ์ของทีมงานบริหารที่ยาวนาน และมีการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง กว่า 12 ปี ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่เปิดขายอยู่ 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการ 6,488 ล้านบาท และเตรียมเปิดโครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพราะความต้องการของตลาดยังมีสูง “นอกจากจุดเด่นของ RICHY ในเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการแล้ว ในด้านของความสามารถทำกำไรก็โดดเด่นไม่แพ้กันโดยในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น ณ สิ้นปี 2556 ทำได้ถึง 36% ทำให้เชื่อว่าจะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและได้การตอบรับที่ดี” ดร.อาภา กล่าวต่อว่าเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทมีนโยบายเน้นทำเลที่มีศักยภาพตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและเป็นชุมชุมที่คนอาศัยหนาแน่น บริษัทดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูงและแนวราบ โดยแนวสูงประเภทคอนโดมิเนียมประกอบด้วย แบรนด์ริชพาร์ค แบรนด์เลอริช โดยจะเน้นที่ตั้งใกล้บริเวณแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นหลัก สำหรับแนวราบประกอบด้วยแบรนด์ริชชี่ วิลล์ ที่เป็นบ้านเดี่ยวจัดสรร และแบรนด์เดอะริช บิซโฮม สุขุมวิท 105 เป็นทาวโฮม 3 ชั้น ทั้งนี้ โครงการในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 9 โครงการแบ่งเป็นโครงการที่ปิดการขายแล้วคือ โครงการริชชี่วิลล์ บางบัวทอง โครงการริชชี่ทาวเวอร์ เพชรเกษม-สาธร โครงการเลอริช@อารีย์ โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดขายมี 3 โครงการคือ โครงการคอนโดมิเนียมเลอริช พระราม 3 โครงการเลอริช รัชดา-สุทธิสาร โครงการริชพาร์ค@บางซ่อนสเตชั่น และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและเปิดขายคือ โครงการคอนโดมิเนียมริชพาร์ค@เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ โครงการริชพาร์ค@เจ้าพระยา โครงการทาวน์โฮม และเดอะริช บิซโฮม สุขุมวิท 105 “เชื่อว่าหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว จะทำให้บริษัทมีความพร้อมทางด้านเงินทุนและบุคลากรมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เป็นมา และเมื่อผนวกเข้ากับผลประกอบการที่ขยายตัวต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งลูกค้ายังคงขยายธุรกิจต่อเนื่องทำให้มีโครงการใหม่เพิ่มเติมตลอดเวลา ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการในปี 2557 รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% จากคอนโดมิเนียมที่เปิดขายและประสบความสำเร็จ” ดร.อาภา กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ