กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
-มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือชาวญี่ปุ่นที่กำลังย้ายมาทำงานในไทย
กรุงศรี ร่วมกับ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) วันนี้ ประกาศเปิดตัว Krungsri Thai Benefit Package ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งประกอบด้วย บัญชีเงินฝาก Krungsri Thai Savings บัตรเดบิต Krungsri Thai Debit และบัตรเครดิต กรุงศรี วีซ่า แพลทินัม (Krungsri Visa Platinum Credit Card) จับกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย
มร.โนริอากิ โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Krungsri Thai Benefit Package เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิยูเอฟเจ (BTMU) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มุ่งตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทยและสนับสนุนเป้าหมายของธนาคารในการขยายฐานลูกค้าและเป็นธนาคารหลักของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว”
ปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในไทยประมาณ 43,000 คน 1 นอกจากนี้ ในแต่ละปียังมีชาวญี่ปุ่นที่ย้ายมาทำงานในประเทศไทยอีกประมาณกว่า 20,000 คน 2
Krungsri Thai Benefit Package จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันในญี่ปุ่นและไทย ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
“โดยในช่วงแรก ธนาคารมีเป้าหมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน Krungsri Thai Benefit Package ให้แก่กลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่กำลังจะย้ายมาทำงานในไทย โดยมุ่งมอบความสะดวกและคล่องตัวในการเตรียมการเปิดบัญชีและทำธุรกรรมทางการเงินเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอผ่าน Krungsri Thai Benefit Package นี้ เรามีแผนที่จะขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมไปยังชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทยและทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบภายในช่วงต้นปี 2558” มร.โกโตะ กล่าว
“นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Krungsri Thai Benefit Package แล้ว ธนาคารกรุงศรียังได้เพิ่มบริการ Japanese Desk ณ สาขาของธนาคารโดยจัดให้มีพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่น มีความรู้ในผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินมาให้บริการลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบัน Japanese Desk ได้เปิดให้บริการแล้วที่สาขาพารากอน และจะขยายไปยังสาขาอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้” มร.โกโตะ กล่าว
นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝาก การลงทุน ประกันภัย และธนบดี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Krungsri Thai Benefit Package เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อมุ่งตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในไทย ซึ่งประกอบไปด้วย บัญชีเงินฝาก Krungsri Thai Savings (บัญชีเงินฝากระเภทออมทรัพย์ สกุลเงินบาท) บัตร Krungsri Thai Debit ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ในการถอนเงินสดจากเครื่อง ATM ทุกตู้ ทุกธนาคาร ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และบัตรเครดิต กรุงศรี วีซ่า แพลทินัม”
“สิ่งที่ทำให้ Krungsri Thai Benefit Package มีความพิเศษมากกว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ คือ ลูกค้าสามารถเริ่มต้นกระบวนการเพื่อเตรียมเปิดบัญชีธนาคารได้ตั้งแต่ที่ลูกค้ายังอยู่ที่ญี่ปุ่น โดยธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) จะจัดส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ เอกสารแบบฟอร์มเพื่อขอข้อมูลลูกค้าและผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการใช้บริการในไทย พร้อมให้คำแนะนำในการสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ให้กับลูกค้าที่สนใจ และ BTMU จะทำการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น ก่อนที่จะแจ้งมายังกรุงศรี ซึ่งมีทีมที่ทำหน้าที่ดูแลลูกค้ารายย่อยชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ”
“กรุงศรีจะเตรียมเอกสารเพื่อเตรียมพร้อมในการเปิดบัญชีให้แก่ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเลือกสาขาที่สะดวกในการเปิดบัญชี และเซ็นเอกสารต่างๆ เมื่อเดินทางมาถึงไทย โดยหลังเสร็จสิ้นการเซ็นเอกสารในการเปิดบัญชีลูกค้าจะได้รับบัตรเดบิต ซึ่งสามารถนำไปทำธุรกรรมได้ทันที”
“ในฐานะธนาคารหลักสำหรับลูกค้าชาวญี่ปุ่น จึงเป็นโอกาสของธนาคารในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝาก รวมทั้งบริการอื่นๆ เช่น SMS Banking และ Internet Banking แก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว” นายกฤษณ์ กล่าว
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 กรุงศรีได้เข้าเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุด ระดับโลก ผ่านธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) โดยได้ถือครองหุ้นประมาณ 72% จากจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคาร
1. แหล่งข้อมูล: สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2. แหล่งข้อมูล: สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว