กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--แม็กซิม่า ตอนซัลแตนท์
พุงหรือ? ก็คือไขมันที่ไปสะสมอยู่ที่บริเวณช่องท้อง ซึ่งคนที่มีไขมันในช่องท้องสูง จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคเบาหวานมากขึ้น (ในผู้หญิงยังมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วย) ดังนั้นการตั้งใจที่จะลดไขมันในส่วนนี้ นอกจากจะช่วยให้ดูดีแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังได้ด้วย อ้วนลงพุงจึงมีผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต
พ.ญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ผู้ก่อตั้ง เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ (Apex Profound Beauty) เผยว่า “การลดไขมันช่องท้อง ต้องควบคุมอาหาร และ ออกกำลังกายแบบแอโรบิค เพื่อให้ร่างกายเอาไขมันมาใช้เป็นพลังงานให้มากที่สุด แต่การลดไขมันส่วนนี้ก็ไม่ง่ายเลย เพราะร่างกายจะนำมาใช้เป็นอันดับสุดท้าย ถ้าเราอดอาหารกล้ามเนื้อก็จะถูกนำมาใช้เป็นพลังงานก่อน ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุว่าทุกครั้งที่อดอาหาร พอหยุด ร่างกายก็จะอ้วนขึ้นกว่าเดิม เพราะไขมันไม่ได้ถูกนำไปใช้ แต่กลับเป็นกล้ามเนื้อซึ่งช่วยในการเผาผลาญพลังงาน เมื่อกล้ามเนื้อมีน้อยลงก็จะยิ่งอ้วนได้ง่ายขึ้น เผาผลาญได้น้อยลง การลดไขมันในช่องท้อง จึงไม่ควรอดอาหาร แต่ควรเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้อง และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ใช้พลังงานให้มากกว่าที่รับเข้าไปในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายนำเอาไขมันสะสมออกมาใช้
ในทางการแพทย์ สามารถใช้วิธีการบำบัดด้วยเซลล์ (Cell Therapy) เพื่อเพิ่มการเผาผลาญ ขับของเสียออกจากร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของระบบเลือดและน้ำเหลือง นอกจากนี้ก็ยังมีทรีตเม้นต์ที่ใช้พลังงานในการกำจัดไขมันช่องท้อง เช่น ซีโลนา (Zerona) ใช้พลังงานเลเซอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะ ฉายผ่านผิวหนังเพื่อทำลายผนังเซลล์ไขมัน และทำให้ไขมันกลายเป็นของเหลว ซึ่งจะถูกดูดซึมและขับออกจากร่างกายในรูปของของเสีย จากการศึกษาของทางผู้ผลิตพบว่า ผู้เข้ารับการรักษา มีระดับไตรกรีเซอร์ไรด์ ลดลงถึง 60% คอเลสเตอรอลในกระแสเลือดลดลง 85% มีปริมาณไขมันดี คือ HDL เพิ่มขึ้นขณะที่ไชมันเลว LDL ลดลง เป็นทรีตเม้นต์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา ว่าสามารถกำจัดไขมันได้จริง หรือ ทีเอ็มเอส (TMS) หรืออีกชื่อ เธอร์มา สลิม (Therma Slim) ทำงานโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ สลายไขมัน ในช่องท้อง และรอบอวัยวะ เพิ่มการเผาผลาญ และการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง
นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีการลดไขมันด้วยการใช้สารอาหาร ที่เรียกว่า นูทรีชั่น บายพาส (Nutrition bypass) โดยเน้นการปรับสมดุลการทำงานของต่อมหมวกไต ด้วยวิตามินและสารธรรมชาติ เป็นการแก้ปัญหาจากต้นเหตุ เพราะถ้าความอ้วน หรือไขมันสะสมเกิดจาก ฮอร์โมนไม่สมดุล แม้เราจะอดอาหารหรือออกกำลังกายอย่างไร ก็จะไม่ได้ผลถ้าไม่มีการปรับสมดุลฮอร์โมนเสียก่อน”
การกำจัดไขมันสะสมในร่างกาย จะต้องอาศัยทั้งพลังใจที่เข้มแข็ง และร่างกายที่อดทน แม้จะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากมีความมุ่งมั่น เพราะรูปร่างที่ดีไม่เพียงเป็นเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่หมายถึงการมีสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน ฉะนั้นหนุ่มๆ สาวๆ ทั้งหลาย จะต้องสู้...กำจัดไขมันให้ออกไป เพื่อในอนาคตจะได้ไม่ต้องเสี่ยงจากโรคภัยที่เกิดจากไขมันสะสม