Bangkok--9 Jul--สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยสนับสนุนนโยบายปฏิรูปโครงสร้างภาษีของกรมสรรพสามิตที่จะรวบรวมและปรับเปลี่ยนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษีสรรพสามิตที่ใช้มาเป็นเวลานาน ให้เป็นประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต เพื่อมุ่งสร้างความโปร่งใส ความเป็นธรรม ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บและเป็นสากล เตรียมพร้อมสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อย่างไรก็ดี การปฏิรูปจะต้องไม่เพิ่มภาระภาษีแก่ผู้ประกอบการ เพื่อช่วยผู้ประกอบการในการตรึงราคาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และจำกัดผลกระทบต่อค่าครองชีพของผู้บริโภค ตามที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือมา
นายพรวุฒิ สารสิน นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย กล่าวว่า “สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยสนับสนุนแผนการปฏิรูปโครงสร้างภาษีของกรมสรรพสามิต ที่ต้องการให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรม มีประสิทธิภาพ และโปร่งใสยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ติดตามข่าวสารการปฎิรูปโครงสร้างภาษีในครั้งนี้จากสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้จัดการประชุมหารือในหมู่สมาชิกเพื่อรวบรวมความคิดเห็นนำเสนอกรมสรรพสามิตด้วย ซึ่งสมาคมฯ ต้องขอขอบพระคุณผู้บริหารของกรมฯ ที่ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิรูปโครงสร้างภาษีในครั้งนี้โดยผ่านการจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกรมฯ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย”
นายพรวุฒิกล่าวต่อไปว่า “สำหรับในส่วนของภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์นั้น ทราบว่าทางกรมฯ อาจพิจารณาเปลี่ยนมาจัดเก็บจากฐานราคาขายปลีก และอาจมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการยกเว้นภาษีให้กับเครื่องดื่มที่ผลิตจากน้ำพืชผักผลไม้เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งในส่วนนี้ แม้ทางกรมสรรพสามิตจะไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้ แต่ผู้ประกอบการก็เคารพและเข้าใจดีว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นอ่อนไหวที่ยังไม่ได้ข้อยุติ และไม่ต้องการเข้าไปก้าวก่าย เพียงแต่ขอให้โครงสร้างใหม่ที่ออกมานั้นส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรมของผู้ประกอบการทุกราย กล่าวคือเป็นโครงสร้างที่มีความเป็นธรรม และเท่าเทียม รวมทั้งมีความชัดเจน เพื่อให้มีการใช้อำนาจดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ให้น้อยที่สุด ตลอดจนลดขั้นตอนและงานเอกสารที่ไม่จำเป็นลง อันจะเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีทั้งกระบวนการ”
นอกจากนี้ สมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยพร้อมพิจารณาให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้ผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้ภาครัฐช่วยดูแลภาระต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งรวมถึงภาระภาษีด้วย
“แม้เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์จะถูกจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบนฐานว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกจัดอยู่ในรายการสินค้าที่ติดตามดูแลของกรมการค้าภายใน หรือเป็นสินค้าที่กรมฯ เห็นว่ามีผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน โดยเพิ่งมีการร้องขอจากทางกรมฯ ให้ผู้ประกอบการตรึงราคาไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน” นายพรวุฒิกล่าว
“เชื่อว่าสมาชิกทุกรายยินดีพิจารณาให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ แต่สมาคมฯ ใคร่ขอความเห็นใจจากภาครัฐในการดูแลภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนวัตถุดิบของผู้ประกอบการ ตลอดจนไม่เพิ่มภาระภาษีให้กับผู้ประกอบการ สมาคมฯ จึงได้แจ้งไปยังกรมสรรพสามิตไปว่า เราสนับสนุนการปฏิรูปโครงสร้างภาษี แต่ในขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนใดๆ จะต้องไม่เป็นการเพิ่มภาระภาษีให้กับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยให้เราสามารถตรึงราคาสินค้าได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือมา” นายพรวุฒิกล่าว