กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาเก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
งาน FAST Auto Show Thailand 2014 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ปิดฉากลงแล้วด้วยบรรยากาศที่คึกคัก พร้อมเสียงตอบรับที่ดีจากผู้เข้าชมงานตลอด 5 วันที่มีกว่า 2 แสนคน สร้างยอดจองรถใหม่ 1,900 คัน และยอดขายรถใช้แล้ว 800 คัน รวมยอดขายทั้งรถใหม่ รถใช้แล้ว และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ สะพัด 2,100 ล้านบาท ค่ายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วสุดปลื้ม ตั้งเป้าปีหน้าพัฒนาความพร้อมในการจัดงานทุกภาคส่วนรองรับความต้องการของค่ายรถยนต์และอุปกรณ์ประดับยนต์รายใหม่ๆ
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานบริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด และประธานจัดงาน FAST Auto Show Thailand 2014 เปิดเผยว่า โดยภาพรวมแล้ว งาน FAST Auto Show Thailand 2014 ในปีนี้ ซึ่งจัดตรงกับช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 พอดี ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้ สามารถมองได้ว่ายอดขายและจำนวนผู้เข้าชมงานที่ลดลงน่าจะมาจากผลกระทบ 2 ปัจจัย คือ 1. ผลกระทบจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2. ผลกระทบจากการจัดงานข้างเคียง เนื่องจากปีที่ผ่านๆ มามีการจัดงานอื่นๆ ร่วมด้วย ทำให้มียอดคนเข้าชมงานมาจากงานข้างเคียงบ้าง แต่ปีนี้เป็นปีที่งาน FAST จัดแบบโชว์เดี่ยว ดังนั้นคนที่มางานนี้จึงเป็นคนที่มาแบบตั้งใจเข้าชมงานโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยนต์ทั้งรถใหม่และรถยนต์มือสองต่างพอใจกับยอดขายที่เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 5 วัน ซึ่งสามารถขายรถได้รวม 2,700 คัน รวมยอดขายทั้งรถใหม่ รถใช้แล้ว และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ สะพัดถึง 2,100 ล้านบาท ทั้งหมดนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่มีช่วงโลว์ซีซั่น
นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใหม่ กล่าวว่า “จากยอดขายรถใหม่ที่มีถึง 1,900 คันในปีนี้ ส่งผลให้ค่ายรถทั้ง 15 รายที่เข้าร่วมงานพร้อมข้อเสนอพิเศษ โปรโมชั่นโดนใจมากมายที่ออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ค่อนข้างพอใจกับยอดขายและยอดจองในงาน ซึ่งงานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจที่จะซื้อรถใหม่ได้เข้ามาศึกษาหาข้อมูล และทดลองขับขี่ พร้อมทั้งพิจารณาข้อเสนอพิเศษต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถ ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสนำเสนอสินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น ทำให้แนวโน้มที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อรถภายหลังจากงานมีมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ รถที่ได้รับความนิยมในงานนี้มีหลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นรถที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงรถยนต์ปิ๊กอัพ เช่น อีซูซุ ส่วนรถเก๋งอย่างยี่ห้อฮอนด้าที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ไป รวมถึง ซูบารุ ฮุนได และยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งมียอดจองภายในงานด้วย
นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใช้แล้ว กล่าวว่า ด้านรถใช้แล้ว ในแง่ของยอดขาย ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว มียอดขาย 800 คัน ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายได้มากขนาดนี้น่าจะมาจากคอนเซ็ปต์ในการการันตีคุณภาพที่รับประกัน 100% ครอบคลุม 5 เงื่อนไข ส่งผลทำให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจในคุณภาพ เชื่อใจผู้ประกอบการ และตั้งใจมาซื้อโดยตรง ทั้งนี้ ยอดขายส่วนใหญ่เป็นรถในระดับพรีเมียม เริ่มตั้งแต่ราคา 6-7 แสนถึงล้านบาทขึ้นไป สาเหตุที่เป็นรถระดับพรีเมียม ส่วนหนึ่งมาจากในงานไม่มีรถใหม่ในระดับพรีเมียมมาร่วมงาน จึงทำให้ไม่เกิดการเปรียบเทียบราคาหรือเกิดความลังเลในการตัดสินใจซื้อ
อย่างไรก็ตาม จากเสียงเรียกร้องด้านผู้ประกอบการ ทำให้ผู้จัดงานวางแผนที่จะขยายเวลาในการเปิด-ปิดงานในปีหน้าให้มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว และเพื่อให้บริษัทรถยนต์สามารถเพิ่มยอดจองได้มากขึ้น ในด้านของลูกค้าก็สามารถที่จะมีเวลาในการเข้าชมงานได้มากยิ่งขึ้น
“สำหรับแนวโน้มการจัดงานในปีหน้า ทางผู้จัดงานได้มีการหารือกันเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง อาทิ เรื่องการขยายเวลาเปิด-ปิดงาน เรื่องการปรับเวลาในการทดลองขับขี่ให้มากขึ้น เรื่องการทำความเข้าใจกับผู้ที่มาออกงาน เป็นต้น จากสถิติพบอีกว่าช่วงวันเสาร์ อาทิตย์จะมีคนมาเยอะมาก ตัวเลขยอดขายดี ดันยอดขายเพิ่มมากขึ้น ทางผู้จัดคาดว่า หลังจบงานแต่ละค่ายรถยนต์จะมีการไปซื้อขายนอกงานกันต่อ รวมทั้งมีฟีดแบคอื่นๆ จากผู้ที่ไม่ได้มาออกงานในปีนี้ เช่น ผู้นำเข้ารถอิสระ / มอเตอร์ไซค์ สนใจอยากออกงาน ซึ่งถือเป็นโจทย์ให้กับทางผู้จัดในการเตรียมงานในปีต่อไป” นายพัฒนเดช กล่าวทิ้งท้าย