กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
โรลส์-รอยซ์ บริษัทด้านระบบพลังงานระดับโลกลงนามในสัญญากับบริษัทด้านวิศวกรรม อาจีเค+แซด&เอ (RGK+Z&A) ในการให้บริการด้านการดูแลและบำรุงรักษาชิ้นส่วนอุปกรณ์ให้กับโรงผลิตไฟฟ้าลอก์วา (Hlagwa Power Plant) เฟสที่ 2 โดยมี มร. ลาร์ส ไอค์แลนด์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเบอร์เกน เอนจินส์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านระบบพลังงานไฟฟ้าของโรลส์-รอยซ์ ลงนามในสัญญาร่วมกับ มร. เซย่า ธูรา มอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม อาจีเค+แซด&เอ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซย่า แอนด์ แอสโซซิเอส โดยมี มร. ฮิวโก้ สไวร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร และ ฯพณฯ อู คิน หม่อง โซ รัฐมนตรีกระทรวงการไฟฟ้า (Ministry of Electric Power : MOEP) แห่งสหภาพเมียนมาร์ ร่วมเป็นสักขีพยาน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท เบอร์เกน เอนจินส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ของธุรกิจด้านระบบพลังงานไฟฟ้าของโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce Power Systems - RRPS) ได้ลงนามในสัญญากับ อาจีเค+แซด&เอ มาแล้วครั้งหนึ่ง ในการส่งมอบเครื่องยนต์และระบบการผลิตที่เกี่ยวข้อง สำหรับใช้ในโรงผลิตไฟฟ้าลอก์วา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานก๊าซที่ใช้ความเร็วขนาดกลางโรงงานแรกของเมียนมาร์ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองย่างกุ้ง
ภายใต้สัญญาความร่วมมือนี้ โรลส์-รอยซ์ และกลุ่มบริษัทอาจีเค+แซด&เอ จะมีส่วนช่วยผลิตไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์
กลุ่มบริษัทอาจีเค+แซด&เอ เป็นบริษัทด้านวิศวกรรมของเมียนมาร์ ที่มีความเชี่ยวชาญในการจ่ายกระแสไฟฟ้าในระบบเทอร์มอล พลังงานสีเขียว และอุตสาหกรรมการส่งและการจ่ายกระแสไฟฟ้า โรงผลิตไฟฟ้าลอก์วา เฟสที่ 2 สร้างขึ้นเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา และเป็นโรงงานแรกที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กระทรวงการไฟฟ้าแห่งสหภาพพม่า
"เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นพันธมิตรผู้ร่วมพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมียนมาร์" มร. ลาร์ส ไอค์แลนด์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเบอร์เกน เอนจินส์ กล่าว "อาจีเค+แซด&เอ เป็นพันธมิตรที่สำคัญมาก และเราก็มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าโครงนี้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง นอกจากนี้ เรายังรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก GIEK สถาบันการเงินของประเทศนอร์เวย์"
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะจัดหากระแสไฟฟ้าให้กับประเทศเมียนมาร์โดยไม่มีการสะดุด และจะต้องใช้ทรัพยากรที่น้อยที่สุด ซึ่งเราก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของระบบพลังงานไฟฟ้าของโรลส์-รอยซ์ จะช่วยให้เราสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตามความต้องการของประเทศ" ฯพณฯ อู คิน หม่อง โซ กล่าว
ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในประเทศเมียนมาร์กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศอยู่ที่ 26% และความต้องการในการใช้กระแสไฟฟ้าก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีการคาดการว่าอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศจะสูงขึ้นราวๆ 15% ต่อปี ก๊าซธรรมชาติเป็นทรัพยากรที่สำคัญและถูกนำมาเป็นทรัพยากรหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า อีกทั้งเมื่อมีการผลิตกระแสไฟฟ้าผ่านเครื่องยนต์ความเร็วสูง ก๊าซยังคงเป็นทรัพยากรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
โรงผลิตไฟฟ้าลอก์วา เฟสที่ 2 นี้จะเป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานก๊าซที่ใช้ความเร็วขนาดกลางโรงงานแรกของเมียนมาร์ และภายใต้สัญญาการให้บริการนี้ โรลส์-รอยซ์จะจัดหาเครื่องยนต์พลังงานก๊าซ B35:40V20 จำนวนสามเครื่อง พร้อมกับระบบวิศวกรรมครบวงจร