กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึงลักษณะอากาศ ที่ส่งผลต่อแนวโน้มการเกิดสาธารณภัยในเดือนตุลาคมว่า สภาพภูมิอากาศของประเทศไทยตอนบนจะเป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูฝนเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาว เฉพาะในช่วงครึ่งเดือนแรก ภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าสลับกับมีฝนเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย และตกหนักในบางพื้นที่
ส่วนระยะครึ่งหลังของเดือน ปริมาณฝนและอุณหภูมิจะลดลง ส่งผลให้เกิดสภาวะอากาศ แห้งแล้งในบางพื้นที่ และเริ่มเกิดสถานการณ์ภัยแล้งขึ้น แต่ไม่รุนแรงมากนัก ขณะที่ภาคกลางและ ภาคตะวันออกยังมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักในบางพื้นที่
สำหรับภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากร่องฝนปกคลุม ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มบางพื้นที่ได้ หากในพื้นที่เสี่ยงเกิดฝนตกชุกหนาแน่นติดต่อกันหลายวัน อาจทำให้ดินบนภูเขาสูงเกิดการสึกกร่อน และอาจจะถล่มลงมาทับเส้นทางและบ้านเรือนราษฎรที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร
นายสุนทร ฯ กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ อาจมีพายุเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก และอาจเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านหรือเข้าใกล้จะมีพายุ ลมแรงฝนตกเป็นบริเวณกว้าง อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยหรือพื้นที่ราบลุ่ม จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ให้เพิ่มความระมัดระวัง
(ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ X - Cite ประจำวันที่ ๑๑ - ๑๒ ต.ค.๔๘)--จบ--