กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--บีโอไอ
บีโอไอเผยสถิติยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วงครึ่งปีแรก 2557 มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนแล้ว 534 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 337,400 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมในเดือนมิถุนายนสูงสุดในรอบ 6 เดือน ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าครึ่งปีหลังยอดขอลงทุนจะขยายตัว และเป็นไปตามเป้าหมาย 700,000 ล้านบาท หลังนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 (มกราคม-มิถุนายน 2557) ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 534 โครงการ เงินลงทุนรวม 337,400 ล้านบาท โดยโครงการปรับลดลงร้อยละ 34.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 967 โครงการ ด้านเงินลงทุนปรับลดลงร้อยละ 43.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ 599,500 ล้านบาท
แต่หากพิจารณายอดขอรับส่งเสริมเป็นรายเดือนจะพบว่า ยอดขอส่งเสริมเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 ต่อเนื่องจนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะยอดขอรับส่งเสริมในสองเดือนนี้ มีคำขอสูงกว่าช่วงหลายเดือนก่อนหน้า โดยในเดือนพฤษภาคมมียอดขอรับส่งเสริม 119 โครงการ เดือนมิถุนายน มียอดขอรับส่งเสริม 132 โครงการ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ 6 เดือนด้วย และถือเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนที่เคยชะลอการยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงสถานการณ์ทางการเมืองก่อนหน้านี้ กลับมามีความเชื่อมั่นและทยอยยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามาแล้ว บีโอไอจึงมั่นใจว่า ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 2557 จะเป็นไปตามเป้าหมาย 700,000 ล้านบาท
นายอุดม กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยกลุ่มที่ได้รับความสนใจสูงสุด อยู่ในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่งได้รับความสนใจสูงสุด จำนวน 143 โครงการ เงินลงทุน 164,500 ล้านบาท รองมาเป็น กิจการบริการและสาธารณูปโภค 198 โครงการ เงินลงทุน 92,900 ล้านบาท กิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก 56 โครงการ เงินลงทุน 30,300 ล้านบาท กลุ่มกิจการเกษตรกรรม และผลิตผลจากการเกษตร 87 โครงการ เงินลงทุน 18,700 ล้านบาท กลุ่มกิจการเหมืองแร่ เรซามิกส์ และโลหะขั้นมูลฐาน 22 โครงการ เงินลงทุน 16,700 ล้านบาท กลุ่มกิจการอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า 109 โครงการ เงินลงทุน 9,200 ล้านบาท และ กลุ่มกิจการอุตสาหกรรมเบา 19 โครงการ เงินลงทุน 5,200 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติเริ่มส่งสัญญาณเชื่อมั่น
สำหรับการยื่นขอรับส่งเสริมทางตรงจากต่างประเทศ (FDI : Foreign direct investment) พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยในเดือนมิถุนายน มียื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 82 โครงการ สูงขึ้นกว่าเดือนพฤษภาคมที่มีจำนวน 73 โครงการ และเดือนเมษายนที่มีจำนวน 69 โครงการ
สำหรับภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรก มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 407 โครงการ เงินลงทุนรวม 239,099 ล้านบาท โดยโครงการลดลงร้อยละ 34 เมื่อเทียบกับจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 619 โครงการ เงินลงทุนลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินลงทุน 278,596 ล้านบาท
นักลงทุนจากญี่ปุ่นเป็นกลุ่มที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงสุด มีจำนวน 194 โครงการ เงินลงทุน 80,492 ล้านบาท สำหรับการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา มีจำนวน 15 โครงการ เงินลงทุน 36,681 ล้านบาท เงินลงทุนปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 32 โครงการ เงินลงทุน 6,776 หรือเพิ่มขึ้นถึงกว่า 4 เท่า
การลงทุนจากเกาหลีใต้มีทั้งสิ้น 21 โครงการ เงินลงทุนรวม 13,567 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 20 โครงการ เงินลงทุน 1,298 ล้านบาท หรือเพิ่มขี้นกว่า 9 เท่า ด้านการลงทุนจากจีนมีจำนวน 9 โครงการ เงินลงทุน 9,434 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 24 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 16 โครงการ เงินลงทุน 7,593 ล้านบาท