กลุ่มทิสโก้เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง ขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม มุ่งสู่ ‘Top Advisory Bank’ มั่นใจเศรษฐกิจสดใส ดันธุรกิจโตต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 21, 2014 11:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป กลุ่มทิสโก้เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง ยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมปูรากฐานสร้างการเติบโตให้ธุรกิจระยะยาว มั่นใจเศรษฐกิจครึ่งปีหลังสดใส เอื้อธุรกิจโตต่อเนื่อง นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี 2557 จะอ่อนตัวทั้งด้านการบริโภค การลงทุน และการส่งออก จากความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองในช่วงต้นปี ท่ามกลางภาวะดังกล่าว แม้สินเชื่อจะหดตัวลงบ้างเพื่อรักษาคุณภาพให้อยู่ในระดับดี แต่กลุ่มทิสโก้ยังสามารถรักษาผลประกอบการได้ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดในทุกธุรกิจภายในกลุ่ม โดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังของกลุ่มทิสโก้ จะยังมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม และพัฒนาโครงสร้างธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว แต่อาจมีการปรับลดแผนบ้างในด้านสินเชื่อ จากการลดลงของยอดขายรถยนต์ แต่จะยังคงรักษาระดับของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Bancassurance ที่ธนาคารทิสโก้มีการออกผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ในส่วนธุรกิจจัดการกองทุน โดย บลจ. ทิสโก้ ก็สามารถสร้างความแตกต่างจนเป็นผู้นำตลาดในการออกผลิตภัณฑ์กองทุนต่างประเทศ โดยจับจังหวะในการออกกองทุนกำหนดเป้าหมายผลตอบแทน (ทริกเกอร์ฟันด์) ซึ่งประสบความสำเร็จหลายกองด้วยกัน ขณะที่ บล. ทิสโก้ เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ อีกทั้งยังได้พัฒนาบริการแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเน้นจุดแข็งด้านบทวิเคราะห์ของทิสโก้ในการแนะนำโอกาสการลงทุนในช่วงจังหวะต่างๆ นอกจากนี้ กลุ่มทิสโก้จะคงมุ่งพัฒนาวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ขยายช่องทางการให้บริการเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น การพัฒนาระบบและฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ การพัฒนาบุคคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการประสานความร่วมมือกันภายในกลุ่ม และการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ กับพันธมิตร ซึ่งทั้งหมดจะทำอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต “เราเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะปรับตัวดีขึ้น นโยบายภาครัฐก็มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเราก็จะยังคงมุ่งเน้นการขยายบริการทางการเงินแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อย ลูกค้าบรรษัท และลูกค้าธนบดีและจัดการกองทุน สอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ “สรรค์สร้างโอกาสชาญฉลาดเพื่อคุณ” และเน้นย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ และการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเพื่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ด้วยความโดดเด่นของทิสโก้ ที่มีความคล่องตัวสูง สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานให้เข้ากับสถานการณ์อยู่เสมอ” ด้าน นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2557 ของธนาคารทิสโก้จะยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นในธุรกิจหลัก อันได้แก่สินเชื่อทุกภาคส่วน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ อาทิเช่น ธุรกิจนายหน้าประกันภัย โดยยึดหลัก Open platform หรือการเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือใหม่ๆ รวมถึงการทำ Cross-selling ภายในกลุ่ม “ในครึ่งปีหลัง เรายังคงมุ่งการขยายสินเชื่อทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง โดยเรามองว่าสินเชื่อรายย่อยจะเติบโตได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก จากการฟื้นตัวของการบริโภค โดยเฉพาะยอดการขายรถยนต์ภายในประเทศ ทั้งนี้ สินเชื่อที่เกี่ยวกับรถยนต์จะยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเรา โดยเราจะเน้นทำตลาดสินเชื่อรายย่อยระดับล่าง ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่กำลังเติบโตได้ดีและมีเครือข่ายครอบคลุมทุกภูมิภาค รวมถึงธุรกิจนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) ที่เราได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือแผนคุ้มครองโรคมะเร็ง ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก และจะทำตลาดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ส่วนสินเชื่อธุรกิจเชื่อว่าจะกลับมาขยายตัวได้ดี เรามุ่งเน้นการสร้างฐานธุรกิจให้แก่ลูกค้าบริษัทด้วยการตอบสนองความต้องการทางการเงินในเชิงรุกด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ โดยนอกจากจะเน้นกลุ่มธุรกิจที่เราชำนาญอยู่แล้ว เช่น ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค ก็จะมองหาอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้นเช่นกัน ด้านเงินฝาก เราจะเน้นการขยายฐานลูกค้าเงินฝากในกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและรายย่อยให้มากขึ้น โดยจะแข่งขันด้วยคุณภาพการบริการ และอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ” นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธนาคารทิสโก้ยังมุ่งเน้นการขยายช่องทางการให้บริการ โดยได้ขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารทิสโก้สาขาบางลำพู สาขาเมกาบางนา สาขาศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน และสาขาหาดใหญ่ โดยปัจจุบันมีสาขาธนาคารและสาขาสํานักอํานวยสินเชื่อรวมทั้งสิ้น 142 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้าน นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มทิสโก้ กล่าวถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 2 ของปี 2557 ว่า กลุ่มทิสโก้มีผลกำไรสุทธิจำนวน 991.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส1 ปี 2557 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 1.5% เนื่องจากต้นทุนการเงินลดลงเล็กน้อย ส่วนของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลัก เพิ่มขึ้น 2.1% ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของภาวะตลาดทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจจัดการกองทุนที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ ประกอบกับการออกกองทุนที่ตอบรับกับความต้องการของตลาด ด้านสินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนตัว และปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงต้นไตรมาส 2 โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปรับลดลง 2.1% อันเป็นผลจากตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัวลง โดยยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศงวด 5 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 42.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจยังเพิ่มขึ้น 3.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ สรุปภาพรวมการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 2 ปี 2557 นับว่ายังคงมีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถควบคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมให้ลดลงมาอยู่ที่ 35.5% ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม รวมถึงยังมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 15.39% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ที่ 8.5% และเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 11.51% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ที่ 6% โดยปัจจุบันกลุ่มทิสโก้มีขนาดสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3.29 แสนล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ