กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--IR network
บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) ประกาศความพร้อม เปิดโรงงานเตรียมพร้อมขยายกำลังการผลิตท่อร้อยสายไฟ-ท่อก่อสร้างแห่งใหม่ โชว์ศักยภาพเครื่องจักรมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้น 50% หนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% "ธานินทร์ ตันประวัติ"เผยพร้อมรับคำสั่งซื้อได้อย่างเต็มที่ หนุนรายได้พุ่งกระฉูด พร้อมปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 20% จากเดิมคาดเติบโต 13-15% จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยว่า ขณะนิ้โรงงานขยายกำลังการผลิตท่อร้อยสายไฟและท่อก่อสร้างแห่งใหม่บนพื้นที่ขนาด 3,500ตารางเมตร ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว ซึ่งจะช่วยเสริมกำลังการผลิตในส่วนงานท่อร้อยสายไฟได้ประมาณ 20% และท่อก่อสร้างได้อีกประมาณ 12% หรือคิดเป็นกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นประมาณ 30% เนื่องจากเครื่องจักรมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการผลิตที่ทำความเร็วได้กว่า 50% ทำให้สามารถป้อนวัตถุดิบส่งให้กับโรงงานในเครือจำนวน 4 แห่ง และรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าได้อย่างเต็มที่
“งานด้านธุรกิจผลิตท่อร้อยสายไฟและท่อก่อสร้าง ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันผลประกอบการของ ARROW ให้ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการที่เครื่องจักรในโรงงานแห่งใหม่สามารถผลักดันกำลังการผลิตท่อร้อยสายไฟและท่อก่อสร้างได้มากขึ้นถึง 50% ทำให้สามารถป้อนวัตถุดิบส่งให้กับโรงงานที่มีอยู่ทั้ง 4 แห่ง และรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันของ ARROW ให้สูงขึ้นแล้ว ยังหนุนให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากในอนาคต และยังเป็นการขยายฐานลูกค้าหน้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย”นายธานินทร์ กล่าว
ทั้งนี้จากการที่ธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับการกระตุ้นจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ว่าจะเป็น ภาคอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ อีกทั้งเป็นช่วง High season ของธุรกิจ และการปรับนโยบายในการขาย โดยหันมาแข่งขันด้านราคามากขึ้น รวมถึงการหันมารับงานติดตั้งงานท่อลมในระบบปรับอากาศ และเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟใต้ดิน เพื่อเทรดดิ้งให้กับกลุ่มลูกค้าโครงการต่างๆ
ประกอบกับขณะนี้มีงานในมือ (Backlog) แล้วกว่า 220 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ทั้งหมดในปีนี้ และเตรียมเสนองานอีกกว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยบวกดังกล่าวบริษัทจึงได้ปรับเป้ารายได้รวมในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20% จากเป้ารายได้เดิมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 13-15% เทียบกับปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะรักษาให้อยู่ที่ระดับสูงกว่า 23%