กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--ซีพีเอฟ
หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร หมู่บ้านต้นแบบที่ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริด้านการปฏิรูปที่ดิน (พ.ศ.2518) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นแนวคิดจัดตั้งหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชรขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522 ที่ ตำบล เทพนคร อำเภอ เมือง จังหวัด กำแพงเพชร โดยนำเอาที่ดินมาจัดสรรอย่างเหมาะสมให้กับเกษตรกรยากจน พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์ นำเทคโนโลยีเข้ามาส่งเสริมการเพิ่มผลิต รวมถึงการหาแหล่งเงินทุนสนับสนุน ด้วยหวังจะให้เป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก
นายบัญญัติ นันทมิตร ผู้จัดการโครงการพิเศษ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร กล่าวว่า หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชรตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่ โดยนำที่ดิน 1,600 ไร่ มาจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร 64 ครอบครัวๆ ละ 25 ไร่ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้การทำเกษตรสมัยใหม่ เพื่อให้สามารถแข่งขันในยุคโลกา ภิวัตน์ได้ โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชมฟาร์ม เพื่อศึกษาดูงานที่เกี่ยวกับกลุ่มพืชครบวงจรและการเลี้ยงสัตว์ที่ประสบความสำเร็จสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับเกษตรกร ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ผลิตสุกรพันธุ์ในหมู่บ้านมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง 70,000-120,000 บาทต่อเดือน หากมีแม่พันธุ์จำนวน 250 แม่ และด้วยการสนับสนุนจาก ซีพีเอฟที่นำระบบแบบโรงเรือนปิด มาใช้ป้องกันความเสี่ยงจากโรค และทำให้สัตว์อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมมีความเป็นอยู่สุขสบาย สุกรจะไม่เจ็บป่วยจึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาสำหรับการรักษา นอกจากนี้ยังนำระบบการให้อาหารอัตโนมัติมาใช้และการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเครื่องช่วยผสมเทียมสุกรที่เรียกว่า AI-Buddy รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตนั่นคือ “ส้วมน้ำ” ในโรงเรือนสุกรขุน ซึ่งในอดีตการทำความสะอาดโรงเรือนจะใช้วิธีฉีดน้ำล้าง ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมากและยังมีผลกระทบต่อสุขภาพสุกรด้วย ดังนั้นทางหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชรจึงได้นำนวัตกรรม ส้วมน้ำ มาใช้ เพื่อลดการใช้น้ำ และลดแรงงานเรื่องการทำความสะอาดโรงเรือน ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพสุกรเพราะพื้นโรงเรือนแห้งสะอาด ทั้งยังสามารถลดกลิ่นได้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชรยังเปิดให้ผู้สนใจเข้าดูงานด้านกลุ่มพืชครบวงจร ได้แก่ ข้าว ปลา ปาล์ม ตลอดจนโครงการงานทดลองเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาในนาข้าว และปลูกปาล์มรอบ ๆ คันบ่อปลา เพื่อให้ได้ผลผลิตตลอดทั้งปี โดยข้าวจะให้ผลผลิตระยะสั้น 4 เดือน ปลาจะให้ผลผลิตระยะกลาง 6 เดือนส่วนปาล์มน้ำมัน มะพร้าวกะทิ จะให้ผลผลิตระยะยาวโดยเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่อายุ 3 ปี และให้ผลผลิตจนถึงอายุ 25 ปี ทั้งยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ให้ทนกับสภาพแวดล้อมและโรคระบาด นอกจากนี้ยังมีอาคารเอนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน ลานเสวนาสภาหมู่บ้าน สหกรณ์หมู่บ้านและศูนย์คอมพิวเตอร์ สำหรับเด็กในหมู่บ้าน และเด็กรอบๆ บริเวณหมู่บ้าน หมู่บ้านใกล้เคียงที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ด้านคอมพิวเตอร์ ได้มีโอกาสมาเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสืบค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์และการเปิดสอนคอมพิวเตอร์เบื้องต้นให้เกษตรกรในหมู่บ้านที่สนใจอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจเยี่ยมชมหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชรสามารถติดต่อขอเข้าชมได้ทุกวันที่นายบัญญัติ นันทมิตร โทรศัพท์ 086-4468411, 081-8872063 นายบัญญัติกล่าว