กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--บ้านพีอาร์
แผ่นดินไหว เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ก่อให้เกิดความเสียหายและภัยพิบัติต่อบ้านเมือง ที่อยู่อาศัย และสิ่งมีชีวิต เมื่อเปิดสถิติข่าวแผ่นดินไหวในประเทศไทย พบว่า ในพื้นที่ภาคเหนือนั้นเกิดแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ ตามมาด้วยเชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน พะเยา ตามลำดับ
เมื่อไม่นานมานี้ประเทศไทยได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50-100 ปี ที่จังหวัดเชียงราย สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชน สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ทางทีมกิจกรรมเพื่อสังคม ดอนเมืองโทลล์เวย์ จึงได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกติดต่อกันหลายครั้ง
กว่า 1 สัปดาห์ที่พนักงานดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้ร่วมกับชมรมช่างป่าแดดซ่อมเพื่อสร้าง(คน) และศูนย์จัดการภัยพิบัติภาคประชาชน จ.เชียงราย ในการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเริ่มจากสำรวจความเสียหายที่ชุมชนบ้านป่าแดด และบ้านทุ่งฟ้าผ่า จากนั้นลงมือซ่อมแซมโครงสร้าง เสา คาน และสร้างบ้าน ตลอดจนแจกน้ำดื่ม สมุดเรียนกรีนเวย์ให้แก่ชาวบ้านและโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวอีกด้วย
นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกิจกรรมกู้วิกฤตภัยแผ่นดินไหวที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงรายในครั้งนี้ว่า “เป็นกิจกรรมที่เราตั้งใจทำเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยความที่ดอนเมืองโทลลล์เวย์เป็นบริษัทบริหารทางด่วน จึงมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการออกแบบโครงสร้างและการก่อสร้างเป็นอย่างดี เราจึงไม่รีรอที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายของประชาชน”
ด้านนางสาวบุษกร สุขกลับ ผู้จัดการแผนกสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในครั้งนี้ สัมผัสได้ถึงความเสียหายของบ้านเรือน ชุมชน วัด โรงเรียน และประชาชนในพื้นที่เสียขวัญเป็นอย่างมาก ความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนในสังคม ยังเข้าถึงน้อยมาก และอาจไม่ตรงจุด หลายคนอาจคิดว่าทรัพย์สินเงินทองคือการช่วยเหลือเยียวยา แต่แท้จริงแล้ว แม้ชาวบ้านหรือผู้ประสบภัยได้รับเงินทองการช่วยเหลือมา แต่เขาเหล่านั้น เคว้งคว้างมาก นั่นคือ เขาจะนำเงินไปซ่อมแซมบ้านเรือนได้อย่างไรบ้าง ต้องทำอย่างไรให้ถูกวิธี เพราะที่ผ่านมาคือการสร้างบ้านเรือนที่ไม่ได้รองรับภาวะแผ่นดินไหว สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการให้ความรู้ และการสร้างความเข้าใจอย่างแท้จริง”
“การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ จึงมิใช่การเน้นนำทรัพย์สินเงินทองไปให้เพียงอย่างเดียว แต่เราไปด้วยน้ำใจ และสองมือที่จะช่วยเหลือ ร่วมเป็นแรงงานการซ่อมสร้าง ร่วมเป็นพลังความคิดที่จะช่วยถ่ายทอดความเข้าใจที่ถูกต้อง ร่วมกับทีมชมรมช่างป่าแดดซ่อมเพื่อสร้าง(คน) และศูนย์จัดการภัยพิบัติภาคประชาชน จ.เชียงราย เพราะภารกิจกิจกรรมเพื่อสังคมของดอนเมืองโทลล์เวย์ครั้งนี้ เน้นการเข้าถึงแก่นแท้ของปัญหาที่จะช่วยเยียวยาชาวบ้านอย่างยั่งยืน และเราก็ได้รับทราบว่า ชาวบ้านที่นี่ยังขาดสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับการรับมือภัยแผ่นดินไหว หากโชคร้ายเกิดขึ้นอีก ชาวบ้านจะได้รับมืออย่างถูกต้อง และจะสามารถลดความสูญเสียที่อาจตามมาได้ ตอบได้ว่า แม้ชาวบ้านจะเสียขวัญ สูญเสียทรัพย์สิน แต่สิ่งที่มีและดำรงอยู่เสมอต่อเนื่องคือ น้ำใจที่ชาวบ้านมอบให้กันและกัน ช่วยการซ่อมบ้านตนเองและเพื่อนบ้าน การแบ่งปันอุปกรณ์การซ่อมบ้าน และการแชร์ความรู้ให้แก่กันและกัน” นางสาวบุษกรกล่าวทิ้งท้าย