กรุงเทพ--26 มี.ค.--ศูนย์ประชาสัมพันธ์กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13
คณะกรรมการสาขาการสื่อสารและโทรคมนาคม ในฝ่ายเทคโนโลยี การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 เตรียมเสนอของบประมาณเพิ่มเพื่อใช้ในการจัดหาเครื่องมือสื่อสารให้พอต่อความต้องการของทุกฝ่าย และเพื่อการบริหารจัดการที่จำเป็นระหว่างการแข่งขัน
ในการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคโนโลยี การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ห้องประชุมสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล บ่ายวันที่ 25 มี.ค.41 นายมนัส ทรงแสง ผู้อำนวยการกองตรวจสอบและเฝ้าฟังวิทยุ กรมไปรษณีย์โทรเลข ผู้แทนจากคณะกรรมการสาขาการสื่อสารและโทรคมนาคม ได้รายงานถึงความต้องการใช้เครื่องมือสื่อสารของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ทั้ง 9 ฝ่ายและสำนักเลขาธิการว่า ความต้องใช้เครื่องมือสื่อสารมีมากเกินขีดความสามารถที่คณะกรรมการสาขาฯ จะจัดหาได้ครบตามจำนวน อย่างไรก็ตามได้ปรับลดจำนวนความต้องการลงให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว ทั้งโทรศัพท์แบบติดตั้ง โทรสาร วิทยุมือถือ วิทยุติดตั้งในรถยนต์
สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่(มือถือ)นั้น ความต้องการมีสูงถึง 567 เครื่อง แต่ต้องปรับลดเหลือเพียง 200 เครื่อง และวิทยุติดตามตัว (เพจเจอร์) ต้องการ 1,993 เครื่อง แต่ปรับลดลงเหลือ 1,000 เครื่อง ตามปริมาณที่ได้รับการสนับสนับสนุนจากบริษัท สามารถ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13
นายมนัส ชี้แจงว่า ความต้องการใช้เครื่องมือสื่อสารที่คณะกรรมการทุกฝ่ายที่แจ้งมายังมีความสับสน เพราะแต่ละฝ่ายไม่มีข่ายสื่อสารสำหรับใช้ในการประสานงานระหว่างกันเพราะฉะนั้น จึงจะต้องมีศูนย์ประสานด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน จะต้องมีข่ายสื่อสารแบบคู่ขนานเพื่อป้องกันความผิดพลาดซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จากเครื่องมือสื่อสารที่ได้จัดหามาใช้ปกติ ซึ่งถ้าเกิดขัดข้องหรือมีอุปสรรค ไม่สามารถส่งข่าวได้ ข่ายสื่อสารคู่ขนานนี้จะใช้นักวิทยุสมัครเล่นจำนวนหนึ่งประกบคู่หรือประจำอยู่ตามจุดที่มีความสำคัญเพื่อช่วยในการส่งข่าว
ขณะเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเครื่องมือสื่อสาร คณะกรรมการสาขาฯ เห็นว่าจะต้องอาศัยการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ และวิทยุติดตามตัว (เพจเจอร์) ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่มาใช้เสริมงานนี้ด้วย ซึ่งทั้งสามเรื่องนี้ ถือเป็นงานที่จะต้องเพิ่มเติมขึ้นมา จึงจำเป็นจะต้องอาศัยงบประมาณในการจัดการเพิ่มเติม จากเดิมที่คณะกรรมการสาขาสื่อสารฯได้รับ 7 ล้านบาท จำเป็นจะต้องขอเพิ่มอีกอย่างน้อยประมาณ 2 ล้านบาท
อนึ่ง สำหรับศูนย์ประสานงานด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมตามข้อเสนอของคณะกรรมการสาขาสื่อสารฯนั้น ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งชื่อว่า "ศูนย์สื่อสารเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13" ศูนย์นี้จะประกอบด้วยเครื่องมือสื่อสารที่สามารถติดต่อประสานงานรับแจ้งเหตุ วินิจฉัย สั่งการในกรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน โดยจะมีผู้แทนของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆในระดับที่สามาถตัดสินใจได้หรือผู้ปฏิบัติงานในสนามประจำอยู่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13โทรศัพท์ 618-2323 ต่อ 2522-29--จบ--