กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 ที่ประชุมได้รับหลักการร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติฯ ในส่วนของบทบัญญัติที่เกี่ยวกับโครงสร้างบริษัทผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัทประกันภัยเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของธุรกิจประกันภัย รวมทั้งแก้ไขให้มีการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยจากกองทุนประกันวินาศภัยและกองทุนประกันชีวิตเพื่อให้ความช่วยเหลือเจ้าหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ปรับปรุงโครงสร้างผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัทประกันภัยเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจประกันภัย โดยแก้ไขคำนิยามลักษณะการถือหุ้นของนิติบุคคลให้เป็นไปในลักษณะเช่นเดียวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551
2. กำหนดให้กองทุนประกันวินาศภัยและกองทุนประกันชีวิตสามารถจ่ายเงินเบื้องต้นจำนวนไม่เกิน 1 ล้านบาทให้กับเจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยได้ทันท่วงที กรณีที่เกิดการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันภัย
3. กำหนดให้กองทุนประกันวินาศภัยและกองทุนประกันชีวิตสามารถสวมสิทธิแทนเจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยในการขอรับหนี้คืนเท่ากับจำนวนเงินที่กองทุนได้จ่ายให้แก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัย และให้อำนาจกองทุนเป็นผู้ชำระบัญชีได้
4. เพิ่มอำนาจให้กองทุนประกันวินาศภัยและกองทุนประกันชีวิตสามารถกู้เงิน ออกตั๋วเงิน หรือออกตราสารทางการเงิน หากมีเงินไม่เพียงพอในการจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัย
5. เพิ่มบทกำหนดโทษคณะกรรมการบริษัทกรณีที่ไม่ส่งมอบบัญชีและเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งหมดของบริษัทให้แก่ผู้ชำระบัญชีภายในเจ็ดวัน ทั้งนี้ เพื่อให้การชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติฯ จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อประชาชนผู้เอาประกันภัย และผู้ประกอบการธุรกิจประกันภัย โดยประชาชนที่เป็นเจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการคุ้มครองให้ได้รับเงินเบื้องต้นรวดเร็วขึ้นเมื่อบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของพระราชบัญญัติฯ ทั้งสองฉบับ นอกจากนี้ การปรับปรุงโครงสร้างผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัทประกันภัยให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับกฎหมายของธุรกิจสถาบันการเงินจะทำให้เกิดความสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน อันจะช่วยส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยไทยมีความเข้มแข็งทางการเงิน และเสริมสร้างให้ธุรกิจการประกันภัยไทยมีความมั่นคงมากขึ้น