กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--บีโอไอ
หน่วย BUILD บีโอไอ จัดกิจกรรมนำคณะเอสเอ็มอีไทยผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เยี่ยมชมกระบวนการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ระดับโลก “ดูคาติ” ตั้งเป้าผลักดันให้ผู้ผลิตไทยป้อนวัตถุดิบ และรับช่วงการผลิตชิ้นส่วน เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
นายนฤชา ฤชุพันธุ์ ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BUILD) เปิดเผยว่า วันที่ 19 สิงหาคม 2557 นี้ หน่วย BUILD จะจัดกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย ครั้งที่ 240 โดยนำผู้ผลิตชิ้นส่วน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เกี่ยวข้องในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ครอบคลุมทั้งกลุ่มพลาสติก เหล็ก รวมถึงชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เดินทางไปเยี่ยมชม บริษัทดูคาติ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DUCATI MOTOR (Thailand) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ที่มีกระบอกสูบของเครื่องยนต์ตั้งแต่ 500 ซีซีขึ้นไป ณ จังหวัดระยอง
ทั้งนี้กิจกรรมสำคัญ จะเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีไทย ได้ร่วมรับฟังนโยบายการจัดซื้อชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันมีเป้าหมายที่จะลดสัดส่วนการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศลง และหันมาใช้ชิ้นส่วนที่จัดซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสให้กับเอสเอ็มอีที่ร่วมกิจกรรม ได้ร่วมเจรจาธุรกิจเพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นพันธมิตรในการผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับความต้องการของบริษัทในอนาคต
“บริษัทกำลังมองหาวัตถุดิบที่ผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตได้ เพื่อที่จะลดการนำเข้าจากต่างประเทศลง ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการลดต้นทุนของบริษัทไปด้วย ดังนั้นในกิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะสร้างโอกาสให้กับเอสเอ็มอีไทยในการเจรจาเพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับบริษัทแล้ว ยังจะช่วยทำให้ผู้ผลิตไทยสามารถนำความรู้ในเทคโนโลยีต่างๆ ที่ได้จากการเยี่ยมชมโรงงานไปพัฒนาและต่อยอดการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย” นายนฤชากล่าว
ปัจจุบัน บริษัท ดูคาติ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DUCATI MOTOR (Thailand) ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการผลิตรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ขนาดตั้งแต่ 500 ซีซี ขึ้นไป มีกำลังการผลิตปีละประมาณ 17,000 คัน โดยจะลงทุนทั้งสิ้น 879 ล้านบาท ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง (เขต 2)
สำหรับบริษัทดูคาติ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีสำนักงานใหญ่ อยู่ในเมือง โบโลนญ่า ประเทศอิตาลี เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ภายใต้ แบรนด์ “ดูคาติ” ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยการผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยมุ่งเน้นตลาดส่งออกเป็นหลัก หรือประมาณ ร้อยละ 95 อาทิ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย