กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--อาร์เอส
กลายเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการบันเทิง เมื่อต้องสูญเสียราชานักบู๊ “พันนา ฤทธิ์ไกร” ผู้ปลุกปั้น “จา-พนม ยีรัมย์” แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาหลังจากงานศพได้เงาศิษย์รัก จน “อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” ได้คว้าตัว “แวว-ชรินทร์ทิพย์ ยีรัมย์” มาเปิดใจกลางรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทาง ช่อง 2 พร้อมปล่อยโฮเล่าถึงอาการทรุดหนักของพ่อ
วงการบันเทิงต้องสูญเสีย “พันนา” ซึ่งถือว่าเป็นครูของ “จา พนม” และทุกคนคาดว่าจาจะต้องกลับมางานศพ ?
“แววไปวันที่ 2 คะ คิดลึกๆ ว่าอยากจะให้พี่เขามา ตั้งแต่อายุ 15 ปีที่เขาไปหาพี่พันนา เราก็รู้ว่าพี่เราไปอยู่กับอาจารย์พันนาไปฝึกซ้อมอย่างที่เขาตั้งใจ ซึ่งเขาก็นับถืออาจารย์พันนา เพราะเคยเจอกันและอาจารย์เคยมาที่บ้าน มาเที่ยวเล่น และเคยไปทำบุญด้วยกันด้วย ถือว่านับถือเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เพราะว่าพี่พันนากับพี่จาเขาเป็นเหมือนศิษย์อาจารย์ และเป็นพี่น้องกันด้วยเขาเคารพนับถือกัน”
เท่าที่ทราบในงานศพจาไม่ได้ไปงานศพ แต่มีคนเห็นขึ้นในไอจี ?
“อันนี้เราก็ไม่ทราบว่าเขาเขียนหรือเปล่า หรือว่ามีคนดูแลให้ แต่ก่อนเราเคยมีเบอร์โทรศัพท์พี่จา เคยส่งข้อความไป แต่เขาไม่ได้ตอบกลับมา แต่ภรรยาเขาตอบกลับมาก็โดนว่าไป เรื่องวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เท่าที่เห็นนะคะ คนเราเป็นลูกศิษย์เป็นอาจารย์กัน อาจารย์เสียถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเขาน่าจะมา คนหลายคนก็มองว่าถ้าไม่มาก็เหมือนอกตัญญู ที่เขาไม่มา เท่าที่ทราบจากหลานที่เขาตามไอจีของภรรยาเวลาที่เขาไปไหนมาไหนก็จะมีรูปด้วย อย่างวันที่ 19 กค.ยังไม่ทำบุญที่วัดที่จังหวัดระยอง ซึ่งคุณพันนาเสียเมื่อวันที่ 20 เขาก็ตามไปดูวันที่ 20 ก็ไม่เห็นมีอะไร เราก็ไม่แน่ใจว่ายังไง ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาอยู่หรือไม่อยู่ คือหลานคนนี้เขาจะติดตามไอจีอันนี้มาตลอด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่จริงหรือเขาอยู่ต่างประเทศ มีคนมาถามเรา เราก็ไม่รู้คำตอบยังไง เพราะว่าเราติดต่อเขาไม่ได้ตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว”
ตั้งแต่มารายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ครั้งที่แล้วยังไม่ได้เจอกันเลยเหรอปีกว่าแล้วนะ ?
“ขอพูดถึงนี้เลยนะคะ ว่ายังไม่ได้เจอกันเลย ที่บ้านก็ไม่มีการโทรไป ไม่มีการไปหา เหมือนตัดขาดไปเลย เราอยากทราบอยากเจอตัวเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนพ่อกับแม่นั่งๆ ก็พูดออกมาว่าลูกรังเกียจพ่อแม่มากขนาดนั้นเลยเหรอ พ่อแม่ทำอะไรให้ ถึงไม่ถามไถ่ไม่มาหา แกน้อยใจคะ”
ได้ข่าวว่าตอนนี้พ่อก็อาการไม่ค่อยดีเหรอ ?
“อาการไม่ดีเลยคะ ตั้งแต่ครึ่งปีมานี่อาการทรุดลงจะลุกจะนั่งต้องพยุงตลอด ปกติโรคความดันแกก็จะไปหาหมอทานยาประจำ แต่พอมีเรื่องของลูกชายมันก็กระทบกระเทือนใจแกมาก เหมือนกับเสียใจมากและก็ตรอมใจและมันก็ทรุดลง เดินเหินเดี๋ยวนี้ต้องพยุงอย่างเดียว เข้าห้องน้ำก็ต้องนอนอยู่กับที่ใช้กระโถน แม่จะต้องคอยดูตลอด สาเหตุที่เดินไม่ได้เพราะเส้นประสาทร้าวอีก 3 เส้นเราก็กลัวว่ามันจะแตก เราพาไปหมอทุกนัด คุณหมอก็พูดเหมือนเดิมว่าพ่อ พ่อไม่มีอะไรมาก พ่อแค่อย่าคิดมาก อย่าเครียด คุณหมอพูดแค่นี้ แต่ก่อนพ่อเป็นคนอารมณ์ดี แข็งแรง แต่ตอนนี้ซึมเศร้าไปเลย บางทีอยู่คนเดียวก็ร้องไห้ ไปเอารูปลูกชายเก่าๆ มาดูแล้วก็ร้องไห้ แล้วก็พูดว่าพ่อกับแม่ทำอะไรผิด ทำไมถึงทำกับพ่อแม่แบบนี้ ตั้งหน้าตั้งตาคอยลูกตลอด ยิ่งเป็นวันสำคัญวันพ่อ วันแม่ ก็รอละไม่หลับไม่นอน และก็ฝันเห็นลูกตลอดว่าลูกมาหาแต่ก็ไม่มาสักที”
เขาอาจจะอยากมาหาพ่อแม่ก็ได้นะ แต่ไม่อยากจะมาหาพี่น้อง ?
“จริงๆ เราอยากจะคุยกับเขา อยากถามเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้น คนเราเป็นพี่น้องกันสามารถคุยกันได้ตลอด เราไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว พ่อแม่เราก็คนเดียวกัน มีเรื่องอะไรมันต้องคุยกันได้ เรายอมรับฟังอยู่แล้ว เราไม่มีปัญหาอะไร แค่อยากให้เขาให้โอกาสได้คุยกัน แต่เขาไม่เคยให้โอกาสให้เราได้คุยเลย เขาไม่เคยให้เราได้เจอพี่เราเลย เราก็ไม่มีโอกาสได้เจอพี่เราเลย เราอยากจะถามเหมือนกันว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่าทำไมคุณถึงไม่ชอบเรา ซึ่งทราบข่าวมาว่าก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่ชอบเรา”
ถ้าสมมุติว่า “จา พนม” นั่งดูรายการอยู่ “แวว” พูดกับพี่ชายสักคำสิ ?
“พี่จาพี่อยู่ไหน (น้ำตาไหล) พี่ทำอะไรอยู่ตอนนี้ แววอยากให้พี่ส่งข่าวพ่อกับแม่มั้งนะ ไม่มีเวลามาหาเขาไม่เป็นไร แต่อยากให้โทรหาเขาบ้าง สงสารเขาเขาแก่แล้ว น้องก็ไม่รู้นะว่าน้องทำอะไรผิด อยากจะคุยกับพี่แต่ก็ไม่มีโอกาส พ่อกับแม่ก็พูดเสมอว่า เขาทำอะไรผิด พี่รังเกียจอะไรเขาหนักหนาพี่ถึงไม่ติดต่อมาเลย พ่อกับแม่เขาไม่ต้องการอะไร เงินทองก็ไม่ต้องการ เราอยู่ได้ของเรา เพียงแต่ว่าแกอยากได้กำลังใจ โดยเฉพาะกำลังใจจากพี่ ส่งข่าวแกบ้างทุกๆ คนยังรักพี่เหมือนเดิม”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 7.00/ 11.00/ 17.00/ 20.00/ 23.00 น. และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2