กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ไทยออยล์
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (28 ก.ค. – 1 ส.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม ซึ่งเป็นผลจากการที่หลายๆ ประเทศที่แม้จะมีความวุ่นวายในประเทศแต่ก็ยังคงผลิตและส่งออกน้ำมันดิบได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอิรัก ขณะที่การส่งออกของลิเบียเองก็ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงเฝ้าจับตาการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมแก่รัสเซียโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่คาดว่าจะมีขึ้นอีกครั้งในเร็วๆ นี้ จากเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซียที่ถูกยิงตก ได้ส่งผลให้นานาประเทศกดดันรัสเซียมากขึ้น จึงทำให้ตลาดกังวลว่าจะเกิดปัญหากับการส่งออกน้ำมันและการลงทุนในรัสเซียเพิ่มขึ้นด้วย
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
· การส่งออกน้ำมันดิบของอิรักยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยในเดือน ก.ค. คาดว่าจะส่งออกน้ำมันดิบสูงถึงราว 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งยังย้ำว่าความรุนแรงทางตอนเหนือของประเทศจะไม่ส่งผลต่อการส่งออกทางตอนใต้ อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาลอิรัก เพื่อหวังให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายยังคงล่าช้าออกไปอย่างต่อเนื่อง
· การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียกลับมาเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง หลังท่าเรือหลักหลายแห่ง รวมถึงแหล่งผลิตน้ำมันดิบใหญ่กลับมาเปิดดำเนินการ ซึ่งส่งผลให้การส่งออกปรับเพิ่มจากเดิมในช่วงต้นปีที่ระดับ 200,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ราว 450,000 – 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงในลิเบียยังคงน่าจับตามองเพราะอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศได้
· จับตาการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่จะมีต่อรัสเซีย โดยสหรัฐฯ ย้ำว่าการคว่ำบาตรจะเน้นที่บริษัทน้ำมัน บริษัทผู้ผลิตอาวุธและเจ้าหน้าที่ของทางการรัสเซีย ขณะที่ทางสหภาพยุโรปเรียกร้องให้หลายธนาคารในยุโรประงับการให้เงินลงทุนใหม่แก่รัสเซีย พร้อมกับแถลงว่าอาจมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมในช่วงปลายเดือน
· ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นหลายแห่งปรับเพิ่มการผลิตขึ้น ส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สมดุลกับความต้องการใช้ในช่วงหน้าร้อนนี้
· ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดขายบ้านมือสอง ดัชนีภาคการผลิต ยอดขอสร้างบ้านใหม่ และยอดสินค้าคงทนสหรัฐฯ รวมไปถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีภาคการผลิต และดัชนีภาคการบริการยุโรป อีกทั้งดัชนีภาคการผลิตจีน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (21 – 25 ก.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 1.05 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 102.09 เหรียญฯ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.15 เหรียญฯ ปิดที่ 108.39 เหรียญฯ `และราคาน้ำมันดิบดูไบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 105 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ หลังจากสหรัฐฯ ปรับเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุดยังมีข่าวว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปอาจจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมอีกในช่วงปลายเดือนนี้ โดยมาตรการคว่ำบาตรรอบนี้เข้มงวดขึ้นมาอีกครั้งหลังเกิดเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซียและเครื่องบินรบยูเครน 2 ลำถูกยิงตกในพื้นที่ของกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซีย นอกจากนั้นปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางในตลาดน้ำมัน ประกอบกับผลการเจรจาระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมามีข้อตกลงที่จะยืดระยะเวลามาตรการคว่ำบาตรอิหร่านออกไปอีก 4 เดือน ทำให้อิหร่านยังคงส่งออกน้ำมันดิบได้ต่อไป ตลาดจึงลดความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันตึงตัวลง มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันปรับลดลงไม่มากนัก