กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ได้เริ่มการประกอบ ณ โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยที่จังหวัดระยอง นับเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นที่สองที่ได้รับการประกอบในไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยจัดพิธีเปิดสายการประกอบมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ เอ็นดูโร่บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์อเนกประสงค์สายพันธุ์สปอร์ต ณ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง โดยบีเอ็มดับเบิลยู F 800GS เข้ามาเสริมทัพบีเอ็มดับเบิลยู F 800 R ซึ่งทั้งสองรุ่นได้รับการประกอบภายในประเทศ ณ โรงงานแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปที่สามารถผลิตยนตรกรรมหรูทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
“การขยายสายการประกอบของเราถือเป็นความสำเร็จล่าสุดของแผนงานกลยุทธ์ด้านการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู, มินิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด” มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยกล่าว
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประสบความสำเร็จในระดับโลกอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงหกเดือนแรกของปี พ.ศ. 2557 ด้วยยอดขายมอเตอร์ไซค์และแม็กซี่-สกู๊ตเตอร์ทั่วโลกที่ 70,978 คัน (ยอดขายที่ 64,941 คัน ในปีก่อนหน้า)ด้วยอัตราการเติบโตทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดได้ส่งมอบมอเตอร์ไซค์ในช่วงครึ่งปีแรกเป็นจำนวนมากกว่ายอดส่งมอบทั้งหมดของปีพ.ศ.2554 แม้จะมีสถานการณ์ไม่ปกติในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมาก็ตาม โดยส่งมอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในรุ่นต่างๆทั้งหมด 218 คันให้แก่เจ้าของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศ
“ปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่บีเอ็มดับเบิลยูฉลองสถิติแห่งความสำเร็จครั้งใหม่ โดยบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS รุ่นประกอบในประเทศจะชูความสำเร็จที่โดดเด่นของเราในปีนี้อย่างต่อเนื่องและตอบสนองความต้องการของตลาดมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ที่แข็งแกร่งและตอกย้ำการเติบโตและตำแหน่งผู้นำตลาดของบีเอ็มดับเบิลยูทั้งในไทยและระดับภูมิภาค นอกจากนี้การขยายสายการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ในประเทศ ส่งผลให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบิ๊กไบค์เอ็นดูโร่สายพันธุ์สปอร์ต
อย่างแท้จริงได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านการตลาดของเราในระยะยาวอีกด้วย”มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยกล่าวสรุป
มร. เจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยกล่าวถึงการขยายศักยภาพการผลิตครั้งล่าสุดของโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จ.ระยองว่า “โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยได้รับการยอมรับในฐานะโรงงานที่มีศักยภาพและประสิทธิภาพในการประกอบรถยนต์ที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญมาจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของทีมงานคนไทยที่เปี่ยมไปด้วยทักษะและความสามารถ ผมและพนักงานทุกคนจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเริ่มต้นสายการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ในบ้านของพวกเราที่จังหวัดระยอง สิ่งนี้ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเราต่อประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตยนตรกรรมในเอเชีย แต่รวมถึงความเชื่อมั่นของเราต่อตลาดบิ๊กไบค์ในภูมิภาคเอเชียว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากกระแสตอบรับที่ประสบความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู F 800 Rซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นแรกที่เริ่มการประกอบในไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา”
ด้วยประวัติความสำเร็จอันยาวนานกว่า 30 ปี ของบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูลGS ได้ปรากฏในพิธีเปิดการขยายสายการประกอบครั้งนี้ พร้อมด้วยการเข้าร่วมของ มร.เควิน แซนเดอร์ส เจ้าของสถิติกินเนสระดับโลกสองสมัยและพันธมิตรของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และทีมโกลบบัสเตอร์ส (GlobeBusters) ซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เดินทางข้ามทวีปจากกรุงลอนดอนมายังกรุงเทพมหานคร โดยสมาชิกชาวไทยของทีม คุณปฏิมา กองเพชรและคุณปรวีร์ ปานดำรงสถิต ได้ร่วมเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์รุ่น GS ของบีเอ็มดับเบิลยูเป็นระยะทางกว่า 20,800 กม. ข้ามผ่านยุโรปตะวันตกมายังกรุงอิสตันบูล ตามรอยเส้นทางสายไหมผ่านจอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน, เติร์กเมนิสถาน, อุซเบกิสถาน, คาซัคสถานมายังมณฑลซีอาน ประเทศจีน (เมืองที่เป็นจุดหมายโบราณของเส้นทางสายไหม)และเดินทางอย่างยาวนานด้วยเส้นทางม้าชา (Tea Horse Road) ไปยังประเทศลาว ผ่านดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ณพรหมแดนไทย-พม่าและเผชิญเส้นทาง “1,864 โค้ง” จนมาถึงยังจุดหมาย ณ กรุงเทพมหานคร สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS แล้ว การเดินทางบนท้องถนนและนอกเส้นทางแบบออฟโรดได้ผสมผสานกันอย่างลงตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน